เจ้าของร้านอะไหล่วิ่งศรีราชาร้องสื่อ ถูกสาวมิจฉาชีพเข้ามาติดต่อขอถ่ายรูปร้านอ้างจะเอาสินค้าไปขายกินเปอร์เซ็นต์ แต่กลับไปเอาหลอกขายในโลกโซเชียลให้ลูกค้าโอนเงินมา ก่อนเงียบหาย พบผู้เสียหายหลายราย จึงเข้าแจ้งความทำชื่อเสียงเสียหาย และรวมตัวเตรียมแจ้งความให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยเหลืออีกทาง
วันนี้
( 6 ธ.ค. ) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก
นายสุภชัย คิดการ อายุ 38 ปี
เจ้าของร้านเก่งอะไหล่ซิ่ง ในพื้นที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่าได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ
“Nuking Allnew”
ได้ติดต่อมาหาทางข้อความส่วนตัวว่าจะติดต่อซื้อสินค้าจากตนเองไปขายต่อ
ซึ่งต่อมาในวันที่ 20 พ.ย.2563 ผู้ใช้เฟซบุ๊คคนดังกล่าวได้เดินทางมาถ่ายรูปหน้าร้านของตนเองไป
แล้วหลังจากนั้นปรากฏว่าได้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากติดต่อเข้ามาหาตนเอง
ว่ามีบุคคลแอบอ้างใช้ร้านของตนเองไปขายสินค้า แล้วให้โอนเงินมาก่อน
แต่ไม่ยอมส่งมอบสินค้าให้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊ค “Nuking
Allnew”
ซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกับที่มาถ่ายรูปหน้าร้านตนเอง
จึงทำให้ตนเองและชื่อเสียงของร้านได้รับความเสียหาย
ตนเองจึงเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา
ว่าตนเองและร้านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าว
พร้อมทั้งให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายเดินทางไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน
ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายอยู่ในหลายพื้นที่ ทั้งพื้นที่บ่อวิน อำเภอศรีราชา
จังหวัดชลบุรี พื้นที่จังหวัดระยอง และพื้นที่จังหวัดชัยภูมิเป็นต้น โดยพบว่าผู้เสียหายได้โอนเงินไปเข้าบัญชีธนาคารของ
นางสาวกิ่งแก้ว ขวัญมา ซึ่งเข้าใจว่าเป็นชื่อนามสกุลจริงของหญิงคนดังกล่าวด้วย
นายสุภชัย
คิดการ เปิดเผยว่า ตนเองเปิดร้านขายอะไหล่แต่งรถยนต์อยู่ในอำเภอศรีราชา
จึงได้โพสต์ขายอะไหล่แต่งรถไปในกลุ่มต่าง ๆ จนกระทั่งมีหญิงสาวใช้เฟซบุ๊ค “Nuking
Allnew” ติดต่อมาหาตนเอง
บอกว่าจะสร้างกลุ่มรถซิ่ง และเดินทางมาถ่ายรูปร้าน
เพื่อจะนำสินค้าร้านตนเองไปบอกขายในกลุ่มเพื่อเอากำไร
ซึ่งตนเองก็ไม่ขัดข้องเพียงแต่ร้านตนเองรับแต่เงินสดเท่านั้น
หลังจากนั้นก็มีผู้เสียหายหลายรายทักตนเองเข้ามาว่าถูกหลอกลวงโอนเงินให้
แต่ไม่ได้รับสินค้า ตนเองจึงเข้าไปตรวจสอบพบว่าเป็นผู้หญิงที่ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าว
พอตนเองทักไปหาก็ถูกหญิงคนดังกล่าวบล็อกเฟซ ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเข้าไปดูในกลุ่มแล้วใช้เฟซบุ๊คแฟนทักเข้าไป
ก็ถูกบล็อกอีก
หลังจากนั้นจึงโพสต์เฟซว่าทางร้านตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว
จึงมีผู้เสียหายทักเข้ามาคุยและส่งหลักฐานมาให้ดูเป็นจำนวนมาก ซึ่งดูจากพฤติกรรมน่าจะเป็นพวกหลอกลวงแน่นอน
เนื่องจากเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊คอยู่บ่อย ๆ ตนเองจึงอยากให้ผู้เสียหายทุกคนรวบรวมหลักฐานแล้วเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่นั้น
ๆ ได้เลยและอยากฝากเตือนถ้าบุคคลดังกล่าวแอบอ้างให้โอนเงิน อย่าโอนเด็ดขาด
เพราะเท่าที่รู้มาเบื้องหลังผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเหมือนกัน
ซึ่งหลังจากนี้ตนเองได้ประสานผู้ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดที่สามารถติดต่อได้
เพื่อจะปรึกษาหารือกันเพื่อเข้าแจ้งความร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเพื่อให้ช่วยดำเนินการจับกุมตัวหญิงสาวคนดังกล่าวด้วยอีกทางหนึ่ง
ความคิดเห็น
/