อุ้มสาวลงน้ำแห่งเดียวในโลก ในวันไหลอำเภอเกาะสีชังที่
จัดขึ้นทุกปีโด่งดังทั่วโลกนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศแห่ร่วมงานกันจำนวนมาก
วันนี้ ( 18 เม.ย.60) ที่บริเวณชายหาดเกาะขามใหญ่ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
ทางตอนเหนือของเกาะสีชัง นายดำรงค์ เภตรา
นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชังและประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเกาะสีชัง
ได้กล่าวรายงานต่อนายธวัช สุวรรณ นายอำเภอเกาะสีชัง ที่ได้มาเป็นประธานในการเปิดงานเทศกาลสงกรานต์เกาะสีชัง
วันไหลเกาะขามใหญ่ อุ้มสาวลงน้ำ โดยที่สงกรานต์อุ้มสาวลงน้ำ
หรือประเพณีสงกรานต์อุ้มสาวลงน้ำที่เกาะขามใหญ่ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เป็นที่สนุกสนานของหนุ่มสาวชาวเกาะทั้งสองเกาะ
ในปีนี้จัดขึ้น ที่บริเวณเกาะขามใหญ่ ซึ่งห่างจากตัว อำเภอเกาะสีชัง 1 กม.และนั่งเรือจากท่าเรือเกาะลอยศรีราชามา 45 นาที ภายในงานปีนี้นั้นมีการจัดกิจกรรมที่เรียบง่าย เช่น
พิธีทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ พิธีกองข้าวบวงสรวง การก่อพระเจดีย์ทราย
และประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ ซึ่งงดการจัดกิจกรรมรื่นเริง
นายดำรงค์ เภตรา
นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชังและประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเกาะสีชัง ได้เปิดเผยว่า
สำหรับกิจกรรมในปีนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการน้อมเกล้าฯรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เพื่อสะท้อนหยาดเหงื่อของพ่อหลวง และด้วยความคิดต้องการธำรงความเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอเกาะสีชังไว้
จึงได้จัดประเพณีกองข้าวและอุ้มสาวลงน้ำขึ้น
เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้เห็นถึงคุณค่าของประเพณีที่เก่าแก่
และร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีให้คงอยู่สืบต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน ซึ่งชาวเกาะสีชัง
นั้นจะไม่นิยมเล่นสาดน้ำกันมาตั้งแต่ดั้งเดิม เนื่องจากมีปัญหาการขาดแคลนน้ำจืด
ซึ่งการเล่นจะมีลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น อุ้มสาวลงน้ำ หรือ จูงมือลงทะเล
สำหรับความโดดเด่นของงานสงกรานต์เกาะสีชังที่ไม่มีใครเหมือนก็เห็นจะเป็น
ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ ซึ่งเป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 18 เม.ย.ของทุกๆปี
ที่เกาะขามใหญ่
เนื่องจากชาวเกาะสีชังจะมีอาชีพประมงเป็นอาชีพหลักต้องออกทะเลอยู่เป็นประจำ
ดังนั้นในช่วงประเพณีสงกรานต์จึงเหมือนเป็นวันที่พวกเขาได้หยุดพัก
ไม่ออกทะเลแต่จะพาครอบครัวและรับประชาชนนักท่องเที่ยวเดินทางจากเกาะสีชัง มารวมตัวกันที่เกาะขามใหญ่
รวมทั้งชาวท้องถิ่นหรือลูกหลานที่ไปทำงานที่อื่นๆก็จะกลับมายังบ้านเกิดที่เกาะสีชังในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี
ทำให้หนุ่มสาว และครอบครัวได้มีโอกาสได้พบเจอกัน มาปรับความเข้าใจ
ขอขมาลาโทษในสิ่งที่ผิดข้องใจกัน ในวันที่ 18 เม.ย. ของทุกปี
ชายหนุ่มหรือผู้สูงวัยก็จะเลือกสาวที่ชอบแล้วขออนุญาตอุ้มลงเล่นน้ำทะเล
ในระหว่างที่อุ้มลงน้ำก็จะอวยพรซึ่งกันและกัน นอกจากหนุ่มสาวแล้ว
ผู้สูงอายุก็จะถูกลูกหลานอุ้มลงเล่นน้ำเช่นกัน
เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสได้สนุกสนานร่วมกับครอบครัวและลูกหลาน และเป็นการขอพรในวันสงกรานต์
ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่เป็นผู้หญิง ที่ไม่ใช่คนพื้นที่
เข้ามาท่องเที่ยวในงานประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ
ที่เกาะขามใหญ่นี้ก็จะไม่มีการถือเนื้อถือตัวจะยอมให้ชายหนุ่มหรือผู้สูงวัยอุ้มลงน้ำกัน
ซึ่งในงานประเพณีนี้ชาวต่างประเทศหลายชาติหลายภาษาต่างเดินทางมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมากโดยจะเดินทางมาพักค้างคืนที่อำเภอเกาะสีชัง
แล้วมาร่วมเล่นอุ้มสาวลงน้ำกันอย่างสนุกสนานรวมทั้งถ่ายรูปกับไปเพื่อให้เพื่อนฝูงที่อยู่ต่างประเทศได้ดูกัน
ซึ่งประเพณีนับเป็นประเพณีที่แปลกมีมาตั้งแต่สมัยโบราณที่ชาวอ.เกาะสีชังยังได้อนุรักษ์ไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ปฏิบัติตามรวมทั้งเป็นเรื่องแปลกและทึ่งแก่ชาวต่างชาติที่ได้พบเห็นจนเดินทางมาท่องเที่ยวกันจนโด่งดังไปทั่วโลกหลายปีแล้ว
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างเงียบเหงา
เพราะเนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มักจะไปหากิจกรรมรื่นเริงบนฝั่ง
มากกว่านั่งเรือมาร่วมกิจกรรม
"; /* */
อุ้มสาวลงน้ำแห่งเดียวในโลก ในวันไหลอำเภอเกาะสีชังที่
จัดขึ้นทุกปีโด่งดังทั่วโลกนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศแห่ร่วมงานกันจำนวนมาก
วันนี้ ( 18 เม.ย.60) ที่บริเวณชายหาดเกาะขามใหญ่ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
ทางตอนเหนือของเกาะสีชัง นายดำรงค์ เภตรา
นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชังและประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเกาะสีชัง
ได้กล่าวรายงานต่อนายธวัช สุวรรณ นายอำเภอเกาะสีชัง ที่ได้มาเป็นประธานในการเปิดงานเทศกาลสงกรานต์เกาะสีชัง
วันไหลเกาะขามใหญ่ อุ้มสาวลงน้ำ โดยที่สงกรานต์อุ้มสาวลงน้ำ
หรือประเพณีสงกรานต์อุ้มสาวลงน้ำที่เกาะขามใหญ่ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เป็นที่สนุกสนานของหนุ่มสาวชาวเกาะทั้งสองเกาะ
ในปีนี้จัดขึ้น ที่บริเวณเกาะขามใหญ่ ซึ่งห่างจากตัว อำเภอเกาะสีชัง 1 กม.และนั่งเรือจากท่าเรือเกาะลอยศรีราชามา 45 นาที ภายในงานปีนี้นั้นมีการจัดกิจกรรมที่เรียบง่าย เช่น
พิธีทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระ พิธีกองข้าวบวงสรวง การก่อพระเจดีย์ทราย
และประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ ซึ่งงดการจัดกิจกรรมรื่นเริง
นายดำรงค์ เภตรา
นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชังและประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเกาะสีชัง ได้เปิดเผยว่า
สำหรับกิจกรรมในปีนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการน้อมเกล้าฯรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เพื่อสะท้อนหยาดเหงื่อของพ่อหลวง และด้วยความคิดต้องการธำรงความเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอเกาะสีชังไว้
จึงได้จัดประเพณีกองข้าวและอุ้มสาวลงน้ำขึ้น
เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้เห็นถึงคุณค่าของประเพณีที่เก่าแก่
และร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีให้คงอยู่สืบต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน ซึ่งชาวเกาะสีชัง
นั้นจะไม่นิยมเล่นสาดน้ำกันมาตั้งแต่ดั้งเดิม เนื่องจากมีปัญหาการขาดแคลนน้ำจืด
ซึ่งการเล่นจะมีลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น อุ้มสาวลงน้ำ หรือ จูงมือลงทะเล
สำหรับความโดดเด่นของงานสงกรานต์เกาะสีชังที่ไม่มีใครเหมือนก็เห็นจะเป็น
ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ ซึ่งเป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 18 เม.ย.ของทุกๆปี
ที่เกาะขามใหญ่
เนื่องจากชาวเกาะสีชังจะมีอาชีพประมงเป็นอาชีพหลักต้องออกทะเลอยู่เป็นประจำ
ดังนั้นในช่วงประเพณีสงกรานต์จึงเหมือนเป็นวันที่พวกเขาได้หยุดพัก
ไม่ออกทะเลแต่จะพาครอบครัวและรับประชาชนนักท่องเที่ยวเดินทางจากเกาะสีชัง มารวมตัวกันที่เกาะขามใหญ่
รวมทั้งชาวท้องถิ่นหรือลูกหลานที่ไปทำงานที่อื่นๆก็จะกลับมายังบ้านเกิดที่เกาะสีชังในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี
ทำให้หนุ่มสาว และครอบครัวได้มีโอกาสได้พบเจอกัน มาปรับความเข้าใจ
ขอขมาลาโทษในสิ่งที่ผิดข้องใจกัน ในวันที่ 18 เม.ย. ของทุกปี
ชายหนุ่มหรือผู้สูงวัยก็จะเลือกสาวที่ชอบแล้วขออนุญาตอุ้มลงเล่นน้ำทะเล
ในระหว่างที่อุ้มลงน้ำก็จะอวยพรซึ่งกันและกัน นอกจากหนุ่มสาวแล้ว
ผู้สูงอายุก็จะถูกลูกหลานอุ้มลงเล่นน้ำเช่นกัน
เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสได้สนุกสนานร่วมกับครอบครัวและลูกหลาน และเป็นการขอพรในวันสงกรานต์
ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่เป็นผู้หญิง ที่ไม่ใช่คนพื้นที่
เข้ามาท่องเที่ยวในงานประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ
ที่เกาะขามใหญ่นี้ก็จะไม่มีการถือเนื้อถือตัวจะยอมให้ชายหนุ่มหรือผู้สูงวัยอุ้มลงน้ำกัน
ซึ่งในงานประเพณีนี้ชาวต่างประเทศหลายชาติหลายภาษาต่างเดินทางมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมากโดยจะเดินทางมาพักค้างคืนที่อำเภอเกาะสีชัง
แล้วมาร่วมเล่นอุ้มสาวลงน้ำกันอย่างสนุกสนานรวมทั้งถ่ายรูปกับไปเพื่อให้เพื่อนฝูงที่อยู่ต่างประเทศได้ดูกัน
ซึ่งประเพณีนับเป็นประเพณีที่แปลกมีมาตั้งแต่สมัยโบราณที่ชาวอ.เกาะสีชังยังได้อนุรักษ์ไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ปฏิบัติตามรวมทั้งเป็นเรื่องแปลกและทึ่งแก่ชาวต่างชาติที่ได้พบเห็นจนเดินทางมาท่องเที่ยวกันจนโด่งดังไปทั่วโลกหลายปีแล้ว
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างเงียบเหงา
เพราะเนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มักจะไปหากิจกรรมรื่นเริงบนฝั่ง
มากกว่านั่งเรือมาร่วมกิจกรรม
ความคิดเห็น
/