saostar

Banner โฆษณา

สาวเพชรบูรณ์ถูกแฮ๊กเฟชบุ๊ค ลวงพี่สาวแฟนหนุ่มโอนเงิน สูญเงินเกือบหมื่น

 สาวเพชรบูรณ์ถูกมิจฉาชีพแฮ๊กข้อมูลเฟชบุ๊ค เข้าระบบ ส่งข้อความไปขอยืมเงินเพื่อน ๆ และพี่สาวแฟนหนุ่ม เหยื่อหลงเชื่อคิดว่าน้องเดือดร้อนรีบออกไปโอนเงินให้หลายครั้ง สูญเงินไป 7,000 บาท ทราบเรื่องโดนหลอกตอนมาเอาเงินคืนที่บ้านน้องชาย รีบแจ้นแจ้งตำรวจติดตามตัวคนร้ายทันที

เมื่อเวลา 11.00 วันนี้ (24 เมษายน 2560)  นางสาวมลฤดี เงาสี อายุ 30 ปี พร้อมด้วย นางสาววิจิตรา พึ่งน้อย อายุ 25 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ธัชญ์ศักดิ์ จิรัฐติกุลชัย สารวัตรเวรสอบสวน สภ. หนองขาม จังหวัดชลบุรี ว่าได้ถูกมิจฉาชีพแฮ๊กเฟชบุ๊คของนางสาววิจิตรา พิมพ์ข้อความมาหลอกลวงเงินไปจำนวน 7,000 บาท ใช้ช่วยตรวจสอบและจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ด้วย
โดย นางสาวมลฤดี เงาสี ได้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 23.30 น. ของวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีข้อความทางเฟชบุ๊คของน้องสะใภ้ติดต่อเข้ามา ขอให้ตนช่วยเหลือโอนเงินไปให้จำนวน  1,000 บาท เพื่อจะไปจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตในมือถือ ตนจึงคิดว่าน้องเดือดร้อนจริง ๆ จึงออกไปโอนให้ที่ตู้บุญเติม และได้ข้อความกลับไปบอก แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่าให้โอนเงินเพิ่มมาให้อีก 1,000 บาท ตนจึงโอนให้อีก รวมเป็นสองพัน ต่อมาในข้อความเฟชบุ๊คของน้องสะใภ้ยังตอบกลับมาว่าเงินยังไม่พอจ่าย  จึงได้โทรไปหาน้องสะใภ้แต่น้องสะใภ้ตอบกลับมาว่า ยังไม่สะดวกคุยด้วย กำลังเลี้ยงลูกอยู่ จึงกลับเข้ามาคุยในข้อความทางเฟชอีก และทางน้องสะใภ้บอกขอเงินเพิ่มขอเงินเพิ่มอีก ตนจึงออกไปที่ร้านสะดวกซื้อและซื้อบัตรเติมเงินให้อีก 5,000 บาท โดยเป็นบิลใบละ 1,000 บาท จำนวน 5 ครั้ง รวมเงินทั้งสิ้น 7,000  บาท ซึ่งในข้อความน้องสะใภ้ยังบอกให้ไปเอาเงินคืนที่ห้องในวันนี้ ซึ่งในวันนี้ตนได้ไปเอาเงินตามสัญญา น้องสะใภ้กลับบอกไม่รู้เรื่อง และเปิดเฟชบุ๊คให้ดูพบว่า มีข้อความสอบถามถึงเรื่องการส่งข้อความไปขอยืมเงินกันเป็นจำนวนมาก จึงคิดว่าตนเองถูกมิจฉาชีพส่งข้อความมาหลอกลวงแล้ว จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ทางด้าน นางวิจิตรา พึ่งน้อย น้องสะใภ้เปิดเผยว่า  เฟชบุ๊คดังกล่าวเป็นของตน แต่ถูกคนร้ายแฮ๊กข้อมูลไปขอยืมเงินหลอกลวงเงินกับเพื่อน ๆ ในเฟชบุ๊คของตน จึงไม่อยากให้คนอื่นถูกหลอก จึงเข้ามาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และแจ้งสื่อมวลชนให้ช่วยเผยแพร่ข่าวสาร เพื่อไม่ให้ผู้อื่นต้องมาโดนหลอกลวงดังกล่าว
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสืบสวนหาข้อมูลของคนร้ายรายนี้ โดยพบว่าบัญชีที่ให้โอนเงินไปเป็นบัญชีในชื่อของ Ms.Pakawan Phoka ซึ่งจะได้เรียกตัวเจ้าของบัญชีดังกล่าวมาสอบปากคำ เพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีทางกฏหมายต่อไป










ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ