saostar

Banner โฆษณา

ผกก. หนองขามแจง เมียผู้ต้องหายาเสพติดร้อง กองปราบ ยัดยาเรียกเงิน


ผกก. หนองขาม ชี้แจงสื่อ กรณีภรรยาผู้ต้องหายาเสพติด ร้องตำรวจกองปราบปราม หลังถูก ตำรวจหนองขาม  ยัดข้อหายาเสพติดและกรรโชกทรัพย์  เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ผิดจริงดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ถ้าสอบแล้วไม่จริงเตรียมฟ้องกลับ
 จากกรณีที่ น.ส.สกุลรักษ์ แก้วดอนไพร  อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ที่ 4 ต.โคกสะอาด อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ เข้าพบ พ.ต.ท.สมนึก สันติภาตะนันท์ สารวัตรสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม  เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ภายหลังว่าตนและสามี (นายพูลสวัสดิ์ หมายมั่น  อายุ 32 ปี ) ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองขาม จ.ชลบุรี  กลั่นแกล้งทั้งยัดข้อหายาเสพติดและกรรโชกทรัพย์ พร้อมนำภาพถ่ายของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว และบันทึกจับกุม มามอบให้เป็นหลักฐาน
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ พ.ต.อ.ชนพัฒน์  นวลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  กล่าวว่า  เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2560 เวลาประมาณ 18.00 น.  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกลุ่ม นำโดย  ร.ต.อ.อิสระพงศ์  กุลจินดา รองสารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรหนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมกำลัง ได้จับกุมนายพูลสวัสดิ์  หมายมั่น อายุ 32 ปี พร้อมของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 80 เม็ด พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์  1 กระบอก ที่บริเวณถนนสายหนองปรือหลังตลาดวรกิจ หมู่ 2 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมนำตัวไปตรวจปัสสาวะ ที่โรงพยาบาล พบมีสารเสพติดในร่างกาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวมาดำเนินคดีพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในเมือง ที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร มียาเสพติดให้โทษประเภท1 ( ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย  ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาและเจ้าหน้าที่ได้ส่งฟ้องศาล พร้อมถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำในขณะนี้
พ.ต.อ.ชนพัฒน์. กล่าวต่อไป   เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมานานหลายเดือนแล้ว และมีเหตุสงสัยทำไมภรรยาผู้ต้องหาเพิ่งไปร้องกับตำรวจกองปราบ  นอกจากนั้นยังได้กล่าวอ้างว่า ทางตนได้คืนเงินจำนวนกว่า 30,000 บาทให้กับผู้ร้องอีก  ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่เกี่ยวข้องเลย  แล้วจะเอาเงินจากไหนไปคืน  และคืนในฐานะอะไร แต่อย่างไรก็ตามตนได้ตั้งรองผู้กำกับการฝ่ายปราบปราม เป็นคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว  เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากลูกน้องตนทำผิดจริงก็ดำเนินการตามระเบียบกฎเกณฑ์ของกฎหมาย  ซึ่งเรื่องนี้จะต้องต่อสู้ในชั้นศาลว่ามีการดำเนินการยัดยาและกรรโชกทรัพย์จริงไหม

ขณะนี้ต้องรอศาลพิจารณาเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อน  หากศาลพิจารณาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือกระทำผิด  ทางตำรวจอาจจะต้องฟ้องกลับผู้ที่กล่าวอ้าง เพราะสร้างความเสียชื่อเสียงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ