คนร้ายบุกลักทรัพย์ในร้านนวดแผนไทยได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดและทองรูปพรรณโทรศัพท์มือถือไปกว่า5หมื่นบาทหลบหนีต่อหน้าเจ้าของที่มาเจอพอดี
เมื่อเวลา21.30น.(4ก.ค.60)ศูนย์วิทยุสภ.ศรีราชาได้รับแจ้งว่าเหตุลักทรัพย์สินในร้านก้อยนวดแผนไทย
ภายในซอยหมอย้อย หมู่ 8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชาโดยได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ
หลังทราบเหตุจึงรายงานให้ พ.ต.อ.เรืองศักดิ์
บัวแดง ผกก.สภ.ศรีราชา พ.ต.ท.ศิริศักดิ์ วงษ์วิวัฒน์ สวป.สภ.ศรีราชา
และตำรวจสายตรวจตู้ยามนาพร้าวนำกำลังไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นร้านก้อยนวดแผนไทย
เลขที่ 323/33หมู่ 8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา โดยผู้เสียหายชื่อ นางประทุมมี ซึมซาบ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านยังยืนอยู่ในอาการตกใจ
ได้ให้การว่า ตนได้เปิดหน้าร้านนวดทิ้งไว้ ก่อนเดินไปเอาสุนัขที่บ้านใกล้กัน ส่วนลูกสาวเข้าไปอาบน้ำในร้าน เมื่อเดินกลับมาพบชายไทยอายุประมาณ 30 ปี
รูปร่างผอมสูงยืนอยู่ที่หน้าร้านโดยในมือถือโทรศัพท์มือของตนเองอยู่ ตนจึงถามว่ามาทำไมร้านนวดปิดแล้ว แล้วยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ของตนเองที่มือคนร้าย แต่คนร้ายก็ได้กระชากคอเสื้อตนและพยายามจะทำร้าย
ก่อนวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเวฟ สีทึบ หมายเลขทะเบียนที่จำได้แค่ 4455
ไม่ทราบหมวดอักษรและจังหวัด ที่จอดอยู่ช่วงหน้าร้านแล้วหลบขี่หนี ตนจึงตะโกนให้เพื่อนบ้างข้างเคียงช่วยแต่ก็ไม่ทัน
คนร้ายหลบหนีไปได้
เมื่อเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินในร้านก็พบว่า โทรศัพท์ยี่ห้อซัมซุง
รุ่น เจ 2 ที่ชาจน์แบตเตอรี่ทิ้งไว้หายไป 1 เครื่อง
เมื่อเข้าไปตรวจในกระเป๋าสะพายก็พบว่ากระเป๋าเงินแบบหนีบที่วางอยู่ในกระเป๋าสะพายหายไปโดยภายในมีเงินสด15,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น หนัก 50 สตางค์ 1 เส้น
ตะกรุดทองคำหนัก 50 สตางค์ 1 ดอก หายไปโดยทรัพย์สินที่หายไปกว่า 50,000 บาท ไม่รวมจี้เหล็กไหลที่เก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ซึ่งหามูลค่าไม่ได้อีกด้วย
โดยพบว่าคนร้ายดังกล่าวในช่วงเย็นได้ขี่รถจยย.มาดูลาดเลาแล้ว
2 รอบ ก่อนก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบลายนิ้วมือที่คนร้ายทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุและจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป
ความคิดเห็น
/