saostar

Banner โฆษณา

ลุงชาวสวนปวดฉี่เดินไปเจอโครงกระดูกตกใจโร่แจ้งตำรวจ


ลุงทำสวนวัย55 ปี ผงะ เดินไปปัสสาวะในร่องระบายน้ำข้างสวน เหลือบไปเจอโครงกระดูกในร่องน้ำ ตกใจหายปวดฉี่กะทันหัน รีบวิ่งออกมาแล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ (31 ส.ค.) พ.ต.ท.นิติภูมิ บุตรวงศ์ สารวัตรสอบสวน สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี  ได้รับแจ้งจากนายไพบูรณ์ แสวงจิตต์ อายุ 55 ปี ว่าพบโครงกระดูกอยู่ในร่องระบายน้ำข้างสวนภายในซอยหุบบอนซอย 3 หมู่ 1 ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จึงรายงานให้  พ.ต.ท.ณชเดช ท่าไชย รอง ผกก.ปป.สภ.บ่อวิน พร้อมชุดสืบสวนทราบเพื่อร่วมตรวจสอบ แล้วรีบรุดเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบโครงกระดูกอยู่ภายในร่องน้ำข้างสวนที่นายไพบูรณ์ปลูกพืชผักติดกับป่าหญ้าคา ที่สูงเกือบ 2 เมตร ซึ่งมีท่อนไม้ที่ตัดแล้วมาโยนทับไว้ และชิ้นส่วนกระดูกบางชิ้นส่วนเหมือนมีสัตว์มาคาบไปตกอยู่ใกล้กับที่พบโครงกระดูก ทางเจ้าหน้าที่จึงให้หน่วยกู้ภัยนำขึ้นมาตรวจสอบพบว่าโครงกระดูกดังกล่าวน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือน และยังไม่ทราบเพศที่แน่ชัด พบเพียงขวดยานัด 1 ขวด กระเป๋าหนังใส่เงินแบบพก 1 ใบ ที่มีสภาพเริ่มยุ่ยแล้ว ส่วนเอกสารบางส่วนภายในได้ย่อยสลายไปแล้ว พร้อมเสื้อเชิ้ตผ้ามันคอปกสีขาวลายดอกไม้หลายสีที่มีกระเป๋าหน้าอกด้านซ้ายสีแดง 1 ตัว ส่วนกางเกงและทรัพย์สินอื่นไม่พบแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบ

ด้านนายไพบูรณ์ ผู้พบให้การว่า ตนเองมาดูแลที่ดินให้กับเจ้าของที่อยู่กรุงเทพฯ และเมื่อต้นปียังไม่มีใครมาซื้อจึงได้ให้เจ้าของที่มาปรับให้เตียน ก่อนที่ตนเองที่ช่วยดูแลอยู่จะใช้พื้นที่นี้ปรับแต่งเพื่อทำเป็นสวนปลูกพืชไร่ไว้กินและขาย  เพื่อรอให้เจ้าของขายที่ได้ และเมื่อช่วงเย็นขณะกำลังขุดหลุมและปรับพื้นที่เพื่อจะเตรียมไว้ปลูกสวนผัก ตนเองได้ปวดปัสสาวะจึงได้เดินไปยืนตรงนั้น แต่ระหว่างที่กำลังจะปัสสาวะมองลงไปพบกะโหลกศีรษะพร้อมกับชิ้นส่วนโครงกระดูกร่างของมนุษย์ จึงตกใจหายปวดแล้วรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นเพื่อเรียกให้คนช่วย ก่อนจะแน่ใจว่าเป็นกระดูกมนุษย์จึงรีบแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและมาตรวจสอบดังกล่าว

เบื้องต้นจากการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือน แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นชายหรือหญิง จึงได้ให้ทางหน่วยกู้ภัยส่งไปไว้ที่โรงพยาบาลแหลมฉบังก่อนจะส่งต่อไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลตำรวจกรุงเทพฯเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดพร้อมตรวจดีเอ็นเอแล้วเก็บไว้ในการเปรียบเทียบเพื่อติดตามว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครพร้อมประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวการหายตัวของคนในพื้นที่และใกล้เคียงว่ามีหรือไม่เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนต่อไป


ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ