รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำนักลงทุนญี่ปุ่นลงพื้นที่ EEC เร่งดัน 5
โครงการหลัก เผย ญี่ปุ่นสนใจร่วมลงทุนไทย
ด้านจิสด้าเปิดบ้านรับนักลงทุนญี่ปุ่น เตรียมใช้เป็นฐานพัฒนาอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ
วันนี้ (13 ก.ย.)
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยหลังนำหน่วยงานด้านเศรษฐกิจและคณะนักลงทุนญี่ปุ่นกว่า
500 รายลงพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ว่า ในวันนี้ได้สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินโครงการต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องให้นักลงทุนญี่ปุ่นรับทราบ
โดยเฉพาะการเร่งผลักดันลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5
โครงการหลักเพื่อให้พร้อมต่อการลงทุน
ประกอบการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่
3 การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง สัตหีบ
มาบตาพุด รองรับการขนส่งสินค้าทางทะเลและระหว่างประเทศ และด้านการท่องเที่ยว
โครงการ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะเชื่อมโยง
แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีขั้นสูงกับประเทศต่างๆ จัดโซนพื้นที่อุตสาหกรรม S-Curve
พร้อมหวังให้นักลงทุนญี่ปุ่นลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่
ทั้งนี้
คณะนักลงทุนญี่ปุ่นให้การตอบรับที่ดี
และพอใจที่ประเทศไทยเห็นความสำคัญในการทำงานร่วมกับญี่ปุ่นภายใต้กรอบการพัฒนาประเทศไทย
4.0 โดยทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น
มั่นใจว่าบริษัทญี่ปุ่นที่มีการลงทุนในไทยอยู่แล้วจะขยายการลงทุนต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันจะมีนักลงทุนญี่ปุ่นรายใหม่ที่มีความเชื่อมั่นตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
โดยญี่ปุ่นหวังให้ไทยเป็นประตูสำหรับการเชื่อมการลงทุน การค้า การคมนาคม
และการพัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมกับภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางพัฒนาบุคลากรของภูมิภาค
เริ่มจากกลุ่มประเทศ CLMV พร้อมกันนี้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการให้
บริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยพัฒนาและปรับตัวนำเทคโนโลยี นวัตกรรม
มาปรับใช้ในโรงงานเพิ่มมากขึ้น
เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงของภาคอุตสาหกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงได้เดินทางกลับเนื่องจากติดภารกิจ ส่วนภารกิจช่วงบ่าย นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์
ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ พลเอกสกล
ชื่นตระกูล ที่ปรึกษา
นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำคณะนักลงทุนจากญี่ปุ่นพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง การนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และ จิสด้า
ความคิดเห็น
/