คืบหน้า ฝ่ายบริหาร บริษัท ฮาร์เบอร์ คอมเพล็กซ์ จำกัด
ควงหน่วยงานเกี่ยวข้อง แถลงเหตุลิฟท์รูดจากชั้น 4 ลงชั้น 2
จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 ราย ยันสาเหตุไม่ใช่เกิดจากลิฟท์ตก เนื่องจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบสลิง
6 เส้นที่ยึดตัวลิฟท์ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์และตัวลิฟท์ไม่ได้รับความเสียหาย
โดยจะเดินหน้าหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียด
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดพร้อมดูแลค่ารักษาพยาบาลเต็มที่
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ ( 12 ต.ค.)
น.ส.เลิศนารี สมพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ฮาร์เบอร์ คอมเพล็กซ์
จำกัด พร้อมด้วย นายพงษ์ศักดิ์ จำปาแดง ผู้จัดการฝ่ายระบบ บริษัท ฮาร์เบอร์
คอมเพล็กซ์ จำกัด ,นายสมชัย บุญชัยชาญกิจ ตัวแทนจากบริษัท
ธนชาต โบรเกอร์ จำกัด และ นายเจษฏา ทรัพย์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการ
ธุรกิจบริการบำรุงรักษา บริษัท โคเน่ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่
ได้ร่วมกันแถลงข่าวหลังเกิดเหตุลิฟท์ส่วนอาคารสำนักงานขัดข้องบริเวณชั้น 4
และรูดตกลงมากระแทกกับชั้น 2 ทำให้พนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งที่กำลังจะเข้าร่วมการสัมมนาบนชั้นที่
9 ได้รับบาดเจ็บรวม 14 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ว่า เบื้องต้นบริษัทฯ
พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญเรื่องลิฟท์
กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเหตุในครั้งนี้
โดยการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บที่ติดอยู่ในลิฟท์ออกจากบริเวณชั้น
2 ใช้เวลาเพียง 15 นาที และในส่วนของการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ บริษัทฯ
ยืนยันว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้ทั้งหมด และขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บ
12 รายสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายจักรกฤตย์
ชาญชัยศรี ที่เข่าข้างซ้ายบวม และ นายประกอบ ป้อมถาวร ได้รับบาดเจ็บกระดูกขาหัก
ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา ซึ่งขณะนี้อาการไม่น่าเป็นห่วง
น.ส.เลิศนารี สมพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร
บริษัท ฮาร์เบอร์ คอมเพล็กซ์ จำกัด กล่าวว่าบริษัทฯ ได้ว่าจ้างบริษัท เอลเลเวติ้ง
สตูดิโอ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญเรื่องลิฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทกลางเข้าร่วมตรวจสอบในครั้งนี้ด้วย
เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับผู้เข้ามาใช้บริการ และ
เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
เป็นเรื่องของลิฟท์ที่รูดลงมาและไม่ได้เกิดเหตุลิฟท์ตกแต่อย่างใด
ซึ่งจากการตรวจสอบในส่วนของสลิง 6 เส้นที่ยึดตัวลิฟท์ พบว่าไม่ได้ขาด
หรือกระชาก
ซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอำเภอศรีราชและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
พร้อมกำชับให้เร่งดำเนินการแก้ไข และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ซึ่งการตรวจสอบสาเหตุจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ความคิดเห็น
/