สลดใจ!! หนุ่มช่างเชื่อมวัย
22 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูกระยะที่ 4 คอบวม ปากเบี้ยว จนช่วยเหลือตนเองไม่ได้
ทั้งที่เคยเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องพึ่งพ่อแม่ที่ขี่จักรยานยนต์รับจ้าง มาช่วยดูแลลูกและหลานอีก
4 ชีวิต รายได้ไม่เพียงพอ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ
วันนี้(22 เม.ย.
2561)
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่159/1 หมู่1 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา
จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านเช่า 2 ชั้นปลูกติดกันประมาณ
6 ห้อง หลังได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ จึงได้พบกับ นายอำพล เกตากุล อายุ 66
ปี และ นางวิวรรณ เกตากุล อายุ 50 ปี สองสามีภรรยาที่เช่าบ้านพักอยู่กับครอบครัว
เมื่อเข้าไปในบ้านก็ต้องพบกับ
นายศุภกร เกตากุล อายุ 22 ปี
ซึ่งนอนป่วยเป็นมะเร็งโพรงจมูกระยะที่ 4 นอนอยู่บนที่นอนชั้นล่างบ้าน โดยที่บริเวณคอด้านซ้ายมีอาการบวมโตขนาดใหญ่และร่างกายซูบผอม
ปากเบี้ยว และเริ่มมีแผลกดทับช่วงสะโพกด้านหลัง
นางวิวรรณ เปิดเผยว่า
เมื่อก่อนหน้านี้ นายศุภกร ประกอบอาชีพเป็นช่างเชื่อมเหล็กและมีรายได้ตกวันละ
800 – 1,000 บาท มีภรรยาและมีบุตรชายด้วยกัน 1 คน จนมาเมื่อกว่า
1 ปีที่ผ่านมา นายศุภกรมีอาการปวดที่คอ
จึงไปตรวจที่โรงพยาบาล จนทราบว่าหมอตรวจพบก้อนเนื้อร้ายที่บริเวณคอ
และแจ้งว่าเป็นมะเร็ง ซึ่งเป็นระยะที่สามแล้ว หลังจากนั้นพอนายศุภกรทราบก็มีอาการหนักขึ้น
คอเริ่มบวมมากขึ้นและลุกลามไปยังตับ จนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ต้องทานยาแก้ปวดอย่างแรงทุกวัน ได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก จนภรรยาที่เคยอยู่ด้วยกันก็ทิ้งลูกทิ้งสามีไปอยู่ที่อื่น
ในขณะที่ตนเองและสามี
มีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้เงินไม่แน่นอน
บางวันได้ไม่ถึงสองร้อยบาทมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ที่มีอยู่ทั้งหมด 6 คน ซึ่งลูกชายคนโตก็มาประสบอุบัติเหตุเข่าหลุดทำงานไม่ได้
ลูกชายคนที่สองก็ป่วยเป็นมะเร็ง ลูกชายคนสุดท้องอายุ 11 ปีกำลังเรียนอยู่ชั้นประถม รวมถึงหลานชายลูกของนายศุภกรที่มีอายุเพียง 2
ปี 6 เดือน
โดยทุกครั้งที่ต้องพาบุตรชายไปทำคีโมที่โรงพยาบาลก็ต้องมาติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆเพราะไม่มีเงินที่จะพาบุตรชายไปรักษาที่โรงพยาบาล
ยังมีค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ เดือนละประมาณ 6,000 บาท ค่าไฟแนนซ์ ต้องไปกู้เงินนอกระบบเป็นหนี้รายวัน
และค่ากินค่าใช้ประจำวัน จึงทำให้ไม่พอใช้จ่าย
นาย อำพล เกตากุล
บิดา เล่าว่า
ตนเองเคยคิดจะหนีปัญหาโดยการฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหาหลาย ๆอย่างที่เกินกำลังตนเองจะแบกรับไว้
ค่านมของหลานชาย และแพมเพิสของบุตรชายที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งอีก
แต่ก็ทำใจไม่ได้เมื่อคิดถึงลูก คิดถึงหลาน ถ้าตนเสียชีวิตไปใครจะดูแล
ก็ไม่กล้าตัดสินใจทำสักที
นายศุภกร
บุตรชายที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
กล่าวทั้งน้ำตาว่า
ตนรู้สึกแย่ที่ต้องมาเป็นโรคร้ายนี้และต้องมาเป็นภาระพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามาอีก
แทนที่ตนจะต้องเป็นคนดูแลทุกคนครอบครัว ซึ่งตนเองอยากจะหายจากโรคนี้ เพื่อจะกลับมาทำงานช่วยเหลือครอบครัวไม่ให้ลำบากให้ได้
ซึ่งหากผู้ใดมีจิตศรัทธา
หรือ มีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือครอบครัวของ นายศุภกร เกตากุล
ที่ป่วยเป็นมะเร็งก็สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี นายอำพล เกตากุล ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา แหลมฉบัง
เลขที่บัญชี 653-401375-9 และอีกบัญชี
นางวิวรรณ เกตากุล ธนาคารออมสิน สาขาอ่าวอุดม เลขที่บัญชี 020210001622
หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 097-3373199
ความคิดเห็น
/