saostar

Banner โฆษณา

กรมศุลกากร เปิดการปล่อยสินค้านำเข้าทางเรือล่วงหน้า ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์


กรมศุลกากร  เปิดกระบวนการปล่อยสินค้านำเข้าทางเรือล่วงหน้า ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์  ที่ท่าเทียบเรือ A3 ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี  เป็นแห่งแรก คาดภายในเดือน พ.ค.  นี้ จะมีบริษัทฯมาใช้บริการ 100

วันนี้ (16 พ.ค.)  นายกุลิศ สมบัติศิริ  อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานเปิดงานประชาสัมพันธ์กระบวนการปล่อยสินค้านำเข้าทางเรือล่วงหน้า (Pre arrival Processing by ship) ณ ท่าเทียบเรือ A 3 ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี  โดยมีนายเชาวลิตร  แสงอุทัย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี  ,นายนิติ  วิวัฒน์วานิช   นายอำเภอศรีราชา,นายยุทธนา พูลพิพัฒน์  ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ,ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร  ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ,นางจินดา  ถนอมรอด  นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง  ให้การต้อนรับ

กรมศุลกากรได้เปิดการรับรายงานเรือเข้าอิเล็กทรอนิกส์ (e-Manifest) ก่อนเรือเข้าเทียบท่า ณ ท่าเรือแหลมฉบัง โดยเป็นการเอื้อให้ ตัวแทนสายเรือและผู้นำเข้า ส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้า เพื่อให้กรมศุลกากรนำข้อมูลมาประเมินความเสี่ยงของเที่ยวการขนส่งนั้นๆ

โดยตามขั้นตอนนั้น นายเรือหรือตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากนายเรือ,ตัวแทนเรือ ส่งข้อมูลบัญชีสินค้าที่บรรทุกมากับเรือล่วงหน้าก่อนเรือมาถึงท่า 24 ชั่วโมง ส่วน เรือระยะสั้นจากกัมพูชาและเวียดนาม ให้ส่งข้อมูลล่วงหน้า 6 ชั่วโมง (จากเดิม ส่งข้อมูลภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเรือเข้าเทียบท่า) ทำให้ผู้นำเข้าตัวแทนผู้นำเข้า สามารถจัดทำและส่งข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า ให้เข้าระบบกรมศุลกากรทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมชำระค่าภาษีอากร (ถ้ามี) และผู้นำเข้าจะทราบสถานะของใบขนสินค้าหลังชำระภาษีอากร เพื่อวางแผนในการรับมอบสินค้า ได้เมื่อเรือมาถึงท่า เช่น ใบขนสินค้าขาเข้าสถานะ G (Green Line) ยกเว้นการตรวจสินค้า ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือจะได้รับข้อความอิเล็กทรอนิกส์จากกรมศุลกากรให้ทำการส่งมอบสินค้าได้ โดยสามารถทำการส่งมอบสินค้าให้ผู้นำเข้าหรือตัวแทน ได้ทันทีที่ยกตู้คอนเทนเนอร์ลงจากเรือ  ส่วนใบขนสินค้าขาเข้าสถานะ R (Red Line) ต้องตรวจสินค้าก่อนปล่อย ผู้นำเข้าหรือตัวแทน สามารถมาพบเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ทันที โดยที่ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือจะได้รับข้อความอิเล็กทรอนิกส์จากกรมศุลกากรให้ทำการเตรียมของเพื่อตรวจได้เร็วขึ้นกว่าระบบเดิม

ระบบนี้ยังเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และถือเป็นหนึ่งในแนวทางปฏิบัติที่ดีขององค์กรระหว่างประเทศ โดยเอื้อให้เกิดการจัดส่งข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้า ทั้งตัวแทนสายเรือและผู้นำเข้า เพื่อให้กรมศุลกากรนำข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้า ทั้งตัวแทนสายเรือและผู้นำเข้า เพื่อให้กรมศุลกากรนำข้อมูลมาประเมินระดับความเสี่ยงของเที่ยวการขนส่งนั้นๆ โดยจะสามารถลดเวลาในการส่งมอบสินค้าและลดค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บสินค้าก่อนการตรวจปล่อยออกจากอารักขาศุลกากรได้อย่างแน่นอน รวมทั้งจะสร้างความสะดวกและเรียบง่ายต่อการขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้า

ขณะนี้พบว่า ในเดือนมีนาคม 2561 มีเรือสินค้าเข้าเทียบท่าทั้งหมด 637 เที่ยว แบ่งเป็น สายเดินเรือระยะยาว 489 เที่ยว สายเดินเรือระยะสั้น 148 เที่ยว สำหรับสายเดินเรือระยะยาว มีการส่งข้อมูลล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนเรือมาถึงท่า จำนวน 349 เที่ยว คิดเป็นร้อยละ 71.4 และสายเดินเรือระยะสั้นส่งข้อมูลล่วงหน้า 6 ชั่วโมงก่อนเรือมาถึงท่า จำนวน 143 เที่ยว คิดเป็นร้อยละ 96.6 โดยตาดว่าตัวแทนเรือจะสามารถจัดส่งบัญชีสินค้าขาเข้าล่วงหน้าได้ครบทุกสายเรือภายในเดือน พ.ค.นี้ 








ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ