อัสสัมชัญศรีราชา ระดมความคิดผู้แทนท้องถิ่น ถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสโมสรฟุตบอล
ลุย ไทยลีก 4 เพื่อพัฒนาต่อยอดนักฟุตบอลช้างเผือกของโรงเรียนและนักฟุตบอลภายในท้องถิ่น
ให้ต่อยอดไปสู่ระดับอาชีพ
วันนี้
( 30 พ.ค. ) ภราดา ดร.ชำนาญ เหล่ารักผล
ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา
ได้เป็นประธานในการประชุมหารือความร่วมมือในการพัฒนากีฬาฟุตบอลระหว่างโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา
กับนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ในการจัดตั้งสโมสรฟุตบอลอาชีพ ลงแข่งขันในไทยลีก 4 ในฤดูกาล 2019 โดยมี ม.เชิดชัย ยังให้ผล
หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป ม.วทัญญู เกตุน้อย หัวหน้าแผนกกิจกรรม ม.ดนัย ตรีสาสตร์ ที่ปรึกษา ม.ยุทธนา
ธรรมประเสริฐ ม.วีระพงษ์ ศรีเพ็ชร และผู้แทนท้องถิ่นอำเภอศรีราชา นำโดย นายชรัช
สุวรรณ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา นายชัยยุทธ คงประเสริฐ
ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง นายองอาจ แมลงภู่ทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลสุรศักดิ์ เข้าร่วมประชุม
จากการที่ตัวแทนโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา
ได้มีการเจรจากับนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ที่มีความตั้งใจในการร่วมกันทำทีมฟุตบอลอาชีพ
โดยนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นจะให้ทุนสนับสนุน
ส่วนโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชาจะมีหน้าที่จัดการเรื่องนักฟุตบอล สถานที่
และการจัดการทีม จึงมีการนำเสนอหารือถึงความเป็นไปได้ ข้อดี ข้อเสีย กับผู้ที่มีประสบการณ์
ถึงความเป็นไปได้ การดำเนินการจัดตั้ง การมีส่วนได้ ส่วนเสีย ในการการสร้างทีมฟุตบอลอาชีพในครั้งนี้ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อร่วมกันพัฒนานักกีฬาโครงการพิเศษและนักกีฬาภายในท้องถิ่นสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ
ซึ่งผลการประชุม
สรุปโดยประมาณว่า ในที่ประชุมเห็นด้วยในการจะจัดตั้งสโมสรฟุตบอลอาชีพขึ้นมาลงแข่งขันในฟุตบอลไทยลีก
4 หรือ T4 เพื่อเป็นการต่อยอดนักกีฬาโครงการพิเศษ
และนักกีฬาในท้องถิ่นให้มีทีมฟุตบอลอาชีพได้ลงแข่งขัน และให้มีทีมฟุตบอลของชาวศรีราชากลับมาอีกครั้ง
ซึ่ง โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชาพร้อมให้การสนับสนุนในเรื่องนักกีฬา
สถานที่ และการจัดการระบบ แต่ยังต้องรอการเจรจากับนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นในเรื่องเงินสนับสนุน
เป็นระยะเวลากี่ปี สนับสนุนงบประมาณเป็นจำนวนเงินเท่าไร เป้าหมาย และผลประโยชน์ที่นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นจะได้รับจากการสนับสนุนในครั้งนี้เสียก่อน
ในส่วนของรูปแบบการจัดการก็ต้องมีจดเป็นนิติบุคคลหรือในรูปแบบของบริษัทตามกฎของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯที่ได้กำหนดไว้
ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องรอการเจรจาข้อตกลงกับนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเสียก่อน
ถึงจะมีข้อสรุปที่แน่ชัดอีกครั้ง
ความคิดเห็น
/