saostar

Banner โฆษณา

กรมทางหลวงรับฟังเสียงชาวชลบุรี รอบ 2 มอเตอร์เวย์สายชลบุรี หนองคาย


กรมทางหลวง เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นชาวชลบุรี รอบ 2  มอเตอร์เวย์สายชลบุรี หนองคาย  ช่วงท่าเรือแหลมฉบัง-ปราจีนบุรี ตอน 1  เพื่อพัฒนาเส้นทางคมนาคมฝั่งตะวันออก  ด้านชาวบ้านพร้อมรับสภาพความเจริญที่เกิดขึ้นแต่ต้องจ่ายค่าชดเชยและเส้นทางเข้าออกในแต่ละพื้นที่ให้ชัดเจน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านที่เสียสละในครั้งนี้

วันนี้ (15 มิ.ย.) นายพิพัฒน์พล อำพรเพชร ปลัดอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี  เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมของโครงการงานสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายชลบุรี หนองคาย ช่วงท่าเรือแหลมฉบัง-ปราจีนบุรี  (ทางหลวงหมายเลข 359) ตอน 1 ณ ห้องประชุมพัฒนา คอนเวนชั่น พัฒนากอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต  รีสอร์ท อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อเป็นการนำเสนอรูปแบบการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองที่เหมาะสม เพื่อให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่อโครงการเสนอปัญหานำมาปรับปรุงหวังให้โครงการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น   

ด้านนายเด่นศักดิ์  สูขกุล  วิศวกรโครงการ บริษัทเอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด  กล่าวว่า  การประชุมครั้งนี้ ได้นำเสนอแนวเส้นทางโครงการ โดยแบ่งพื้นที่การศึกษาออก 2 ส่วน มีระยะทางรวม 65.44 กิโลเมตร คือ ตอน 1 ส่วนที่ 1 แบ่งเป็น 2 ช่วง ประกอบด้วย ช่วงที่ 1 กม.0+000 บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 3  ถึง ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ระยะทาง 1.44 กิโลเมตร  ส่วนช่วงที่ 2 กม.0+000 บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 3 ถึง กม.19+500 ระยะทาง 19.5 กิโลเมตร ผ่าน จ.ชลบุรี 2 อำเภอ 7 ตำบล ประกอบด้วย อ.บางละมุง ได้แก่ ต.ตะเคียนเตี้ย และ อ.ศรีราชา ได้แก่ ต.บางละมุง ต.ทุ่งสุขลา ต.บึง ต.บ่อวิน ต.หนองขาม และ ต.เขาคันทรง

สำหรับรูปแบบการพัฒนาทางหลวงพิเศษของโครงการ จะมีการก่อสร้างถนน 6และ 8 ช่องจราจร ,มีการก่อสร้างทางยกระดับในจุดทางแยกที่สำคัญต่างๆ นอกจากนั้นมีการก่อสร้างสถานีบริการและที่พักริมทางบริเวณ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมมีการก่อสร้างด่านเก็บค่าผ่านทาง  จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ด่านศรีราชา และด่านบ่อวิน และ ด่านหนองใหญ่ และด่านบ่อทอง

ด้านนายสมาน  กังจุ้ย   ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  กล่าวถึงถนนเส้นทางดังกล่าว พบว่ามีการตัดผ่านกลางหมู่บ้านที่ประชาชนอยู่กันมานานกว่า 50-60 ปีแล้ว ทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทำใจได้ยากลำบาก นอกจากนั้นเมื่อถนนตัดผ่านจะทำให้วิถีความเป็นอยู่หรือการไปมาหาสู่ภายในชุมชนลำบาก ซึ่งจะทำให้แตกแยกออกเป็น 2  ฝั่ง เพราะจะมีถนนและรั้วปิดกั้น

ชาวบ้านทุกคนต้องทำใจ แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลแล้ว ก็ยังได้รับผลกระทบ โดยชาวบ้านบางรายได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะมีที่ดินเพื่อไว้ทำสวนทำไร่ในบั้นปลายชีวิต แต่ก็มาถูกเวนคืนตัดถนนทั้งหมด  ดังนั้นการจ่ายค่าชดเชยเวนคืนนั้นก็ควรให้เหมาะสมด้วย ที่สำคัญต้องอำนวยความสะดวกในเส้นทางเข้าออกให้กับชาวบ้านที่เสียสละในครั้งนี้ด้วย 

สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้  เริ่มตั้งแต่ ท่าเรือแหลมฉบัง  ผ่านเข้าไปยังพื้นที่วัดบางละมุง ,วัดท่ากระดาน ,พื้นที่ ต.ตะเคียนเตี้ย  ,บ้านหนองมะนาว ,บ้านหนองแขวะ  และออกสู่ถนนบายพาสหมายเลข 7 ซึ่งบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบทั้งหมด  เนื่องจากมีการกันพื้นที่ไว้เป็นจำนวนมาก  เพราะมีการก่อสร้างถนนวงเวียน ,ถนนยกระดับ  และจุดยูเทิร์น










ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ