ชาวบ้านรอบตลาดน้ำ
4 ภาค พัทยา ร้องสื่อ เดือดร้อนมานานหลายปี
หลังแหล่งท่องเที่ยวดังผุดมีการถมที่จนชาวบ้านถูกน้ำท่วม
ร้องมาหลายหน่วยงานแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ
พร้อมบริจาคที่ดินเป็นถนนสาธารณะแต่ยังไม่มีการทำถนนเข้าออก
เดือดร้อนหนักหวั่นเจ้าของตลาดน้ำปิดทางเข้าออกบ้านไม่ได้
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ระหว่างรอยต่อของพื้นที่
ม.4 ต.ห้วยใหญ่ และพื้นที่ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ซึ่งอยู่ติดกับตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดชลบุรี ว่า
ได้รับความเดือดร้อนมาเป็นระยะเวลานานหลังจากดครงการแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวได้เกิดขึ้น
จนส่งผลกระทบต่อความเป้นอยู่และการใช้ชีวิตประจำวัน จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ภายในซอย สุขุมวิทพัทยา 83
พบว่ามีการเกลี่ยพื้นที่ทำถนนทางเข้าบ้าน แต่มีการปิดป้านว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล
จากการเดินตรวจสอบบริเวณโดยรอย ซึ่งส่วนใหญ่ถูกตลาดน้ำ 4 ภาค
พัทยากว้านซื้อที่ไว้จนเกือบหมดแล้ว
พบว่าบริเวณดังกล่าวมีน้ำท่วมขังเจิงนองไปทั่วบริเวณ
นอกจากนี้ยังพบรถแบ็คโฮของตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา
ทำการเกลี่ยหน้าดินถมที่ของตนเองให้สูงขึ้นอยู่ด้วย และหากมีฝนตกลงมาจะทำให้มวลน้ำเอ่อท่วมบ้านจนเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
ซึ่งต้องพบเจอเรื่องอย่างนี้ในทุกครั้งที่มีฝนตก
สอบถาม นางสมนึก ห้วยใหญ่ อายุ 70 ปี
เจ้าของบ้านบริเวณใกล้เคียง เล่าว่า
ที่ดินดังกล่าวเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษที่สืบต่อกันมา ก่อนที่จะมีตลาดน้ำ 4 ภาค
พัทยา ชาบบ้านก็ได้อาศัยอยู่กันตามปกติ แต่เมื่อความเจริญเกิดขึ้น
ฝนตกก็มีน้ำท่วมทะลักเข้ามาในทุกครั้ง
ซึ่งก็ได้ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ
ให้ทำการช่วยเหลือแล้วแต่ก็ไม่มีความคืบหน้ามากนัก จึงอยากให้มีการแก้ไขที่ชัดเจน
เพราะเวลาฝนตกหนักจะมีมวลน้ำจากฝั่งหนองปรือไหลลงมาสบทบด้วย
เมื่อไม่มีท่อระบายน้ำจึงทำให้เออท่วมบ้านตัวเองในที่สุด
ซึ่งปัญหาน้ำท่วมขังนี้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังได้รับผลพวงเรื่องสุขภาพตนเองต้องเจ็บป่วยจากโรคภูมิแพ้และน้ำกัดเท้าอยู่โดยตลอด
ขณะที่ น.ส.นางสาวเพ็ญศรี เฮี้ยนชาศรี
ชาวบ้านอีกราย เล่าต่อว่า ปกติจะมีถนนทางเข้าออกบ้าน
แต่ล่าสุดมีการปิดป้ายเป็นถนนส่วนบุคคลทั้งที่ชาวบ้านมอบให้เป็นถนนสาธารณะใช้งานร่วมกัน
เมื่อได้รับความเดือดร้อนจึงไปแจ้งยังเมืองพัทยาประสานเจ้าของที่เปิดถนนให้เข้าออก
ซึ่งหวั่นว่าหากเจ้าของที่ปิดทางเข้าจะทำให้ลำบากมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของถนนหนทางเข้าบ้านนั้น
ได้ร่วมกันบริจาคที่ดินส่วนตัวและเกลี่ยหน้าดินเพื่อใช้เป็นถนนทางเข้าออกเพื่อสาธารณะ
โดยได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่โยธามาดำเนินการแล้วประมาณเดือนกันยายนปี 60
ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้ามีเพียงการนำดินมาถมบริเวณจุดเชื่อมต่อถนนสาธารณะริมทางรถไฟเท่านั้น
หลังจากนั้นก็เงียบหายไป นี่ก็ผ่านมาประมาณ 6-7
เดือนแล้วยังไม่มีวี่แววการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านแต่อย่างใด
ความคิดเห็น
/