นักโภชนาการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี
ณ ศรีราชา ชี้อาหารที่ผลิตในประเทศไทยมีไขมันทรานส์น้อยมาก ประมาณ 1 % ควรเลี่ยงอาหารทอด คุกกี้ โดนัท เฟร้นฟราย และกินอาหารที่มีไขมันไม่เกิน
3 ช้อนโต๊ะต่อวัน
วันนี้ (07 ส.ค. ) นางออม กิตติพร หัวหน้าฝ่ายโภชนาการ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี
ณ ศรีราชา ออกมาทำความเข้าใจให้กับประชาชนได้ทราบว่า จากกระแสข่าวที่ประเทศไทยจะสั่งห้ามนำผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันทรานส์เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย
เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ชัดเจนว่า
กรดไขมันทรานส์ จากน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน
นั้นเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มักพบได้ในอาหาร และขนม เช่น
เบเกอรี่ หรือ โดนัท ที่ใช้เนยขาว เนยเทียม ครีมเทียม หรือมาการีน เป็นส่วนผสม
และเมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะเพิ่มระดับไขมันเลว และลดไขมันดี ในเส้นเลือด
ซึ่งนำไปสู่โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ รวมถึงโรคเบาหวาน
ไขมันทรานส์ส่วนมากจะอยู่ในประเภทอาหารทอด
ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการกินของทอด ให้ใช้ไขมันพืชประเภทน้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอกแทน
ซึ่งในแต่ละวันไม่ควรบริโภคอาหารที่มีไขมันเกิน 3 ช้อนโต๊ะ
ปัจจุบันมีข้อมูลจากสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล
พบว่าอาหารในประเทศไทย 99 % พบว่าปลอดภัย
ส่วนอีก 1%เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากประเทศในแถบตะวันตก
จึงแนะนำว่าคนไทยไม่ควรไปกินอาหารแบบชาวตะวันตก ซึ่งอาหารไทย อาหารพื้นบ้านของไทย
จะปลอดภัยมากที่สุด
ส่วนอาหารที่พบว่ามีไขมันทรานซ์มาก
ๆ ได้แก่ อาหารจำพวกอาหารทอด ขนมปัง เบเกอรี่ มันฝรั่ง ช๊อคโกแลต เฟร้นฟราย
ขนมปังขาไก่ โดนัท ไก่ทอดและคุกกี้เป็นต้น
ความคิดเห็น
/