ชาวบ้านชุมชนอ่าวอุดมได้เฮ ตู้สินค้าเน่ากลางทะเลอ่าวอุดมได้ฤกษ์เคลื่อนย้ายไปกำจัดแล้ว
หลังส่งกลิ่นเหม็นมานานเกือบสองเดือน สาเหตุเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จมใต้ทะเล
ทำการกู้ขึ้นมากองไว้บนเรือบาส
จากกรณีที่เรือภัทรมารีน
6 บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 72 ตู้ เป็นตู้ขนาด 20 ฟุต จำนวน 50 ตู้ และขนาด 40
ฟุต จำนวน 22 ตู้ จมลงสู่ใต้ท้องทะเลบริเวณเกาะท้ายตาหมื่น ทางทิศใต้ของเกาะสีชัง
ห่างจากฝั่งเพียงเล็กน้อย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นได้มีการกู้ซากตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมาแล้ว 46 ตู้ โดยนำมากองไว้บนเรือบาส บริเวณริมฝั่งทะเล
โดยสินค้าในตู้เป็นสินค้าทางการเกษตร เช่น แป้งสาลี ถั่วเหลือง
และเกิดการเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านบริเวณดังกล่าวเป็นเวลานานเกือบสองเดือน
โดยที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดเมื่อเวลา
11.30 น.วันนี้(11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากร สำนักงานท่าเรือแหลมฉบัง
ได้ส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจนับตู้สินค้าที่จะทำการเคลื่อนย้ายว่ามีจำนวนครบ 46 ตู้หรือไม่
เมื่อทำการเช็คตู้สินค้าเสร็จ เรือบาสที่บรรทุกตู้สินค้าดังกล่าว ก็สามารถเคลื่อนย้ายจาก จากบริเวณริมฝั่งทะเล
บ้านอ่าวอุดม-แหลมฉบัง
ได้เดินทางไปยังจังหวัดสมุทรปราการ แล้ว
ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ
5-6 ชั่วโมง
จากนั้นทางบริษัทจะนำสินค้าดังกล่าวนำไปทำลายต่อไป
ซึ่งบรรยากาศบนเรือเป็นไปด้วยความยินดีเนื่องจากบริษัทเก็บกู้ตู้คอนเทนเนอร์ที่ในระยะเวลาที่ผ่านมา
ยังไม่ได้รับเงินจากการเก็บกู้ตู้คอนเทนเนอร์ที่จมลงในทะเลเลย
จึงทำให้บริษัทต้องออกค่าใช้จ่ายไปก่อน
จนเวลาผ่านไปเกือบสองเดือนหมดเงินที่สำรองจ่ายไปก่อนกว่าสิบล้านบาท
ส่งผลให้บริษัทขาดสภาพคล่องทางการเงินไม่มีเงินจ่ายพนักงานบนเรือ
จึงทำให้พนักงานต้องเขียนป้ายประกาศขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
เนื่องจากไม่มีเงินเติมน้ำมันออกเดินเรือได้
ส่งผลให้ต้องลอยอยู่บริเวณหน้าทะเลอ่าวอุดม จนชาวบ้านได้รับความเดือนร้อนจากกลิ่นเหม็นจากสินค้าในตู้สินค้าที่เน่าเสีย
จนขณะนี้สามารถตกลงค่าใช้จ่ายกับบริษัทประกันภัยได้แล้วจึงทำให้มีการเคลื่อนย้ายเรือไปยังจังหวัดสมุทรปราการได้ต่อไป
ด้านนางสุนันท์ เสียงดัง
ประธานชุมชนบ้านอ่าวอุดม
กล่าวว่า
ตนในฐานะตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นจากตู้สินค้าดังกล่าว
รู้สึกดีใจที่มีการเคลื่อนย้ายตู้ดังกล่าวแล้ว เพราะที่ผ่านมาทนกับกลิ่นเหม็นมานานเกือบ 2 เดือน
ที่ผ่านมาได้ร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า ,กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ,ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี
,นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง
เพื่อให้ช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายตู้สินค้าดังกล่าว และขณะนี้สามารถเคลื่อนย้ายออกไปแล้ว
จึงขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ในครั้งนี้
ความคิดเห็น
/