ชาวแหลมฉบังยังห่วงผลกระทบในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน
ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
หลังเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ครั้งที่ 2 แต่บริษัทที่ปรึกษาพร้อมนำไปปรับปรุงแก้ไขในข้อเสนอแนะของประชาชน
ที่อาคารพลศึกษา
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายธานี เกียรติพิพัฒนกุล รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง
พร้อมด้วย นายวิโรจน์ มีนะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
ด้านกำกับกิจการองค์กร บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ครั้งที่ 2 โดยโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)
ดังนั้นบริษัทฯ
จึงจัดให้มีการดำเนินการมีส่วนร่วมและการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
เพื่อเสนอโครงการ ,รายละเอียดโครงการ, ขอบเขตการศึกษาและการประเมินทางเลือกโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อน
บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) โดยมีประชาชนในพื้นที่แหลมฉบัง-อ่าวอุดม
และใกล้เคียงโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ กว่า 600 คน เข้าร่วมรับฟัง
โครงการจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อน
ซึ่งเป็นโรงฟ้าที่มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า 250 เมกะวัตถ์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความ
เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและไอน้ำด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดกังหันไอน้ำ
โดยใช้กากน้ำมัน เป็นเชื้อเพลิงหลัก และใช้น้ำมันและก๊าซ เป็นเชื้อเพลิงสำรอง
ซึ่งโครงการดังกล่าว จะเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของกลุ่มไทยออยล์, เพื่อสนับสนุนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม
ส่งผลดีต่อความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศ และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนและท้องถิ่น
โดยได้มีตัวแทนชุมชนพร้อมด้วยภาครัฐเอกชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะดังสรุปประมาณว่ายังมีความเป็นห่วงเรื่องคุณภาพอากาศ
น้ำ ในช่วงระยะเวลาการก่อสร้าง ห่วงปัญหาเรื่อสุขภาพ และยากให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานโดยมีตัวแทนจากภาคชุมชนเข้าไปร่วมอยู่ในคณะกรรมการการตรวจสอบด้วย
รวมทั้งเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วอยากให้บริษัทไทยออยล์รับลูกหลานคนในชุมชนเข้าไปทำงานในองค์กรด้วย
ซึ่งประชาชนส่วนมากยังมั่นใจในการดำเนินการของบริษัทไทยออยล์ที่ทำให้โรงงานอยู่ร่วมกับชุมชนได้เป็นอย่างดี
ส่วนข้อเสนอแนะต่าง ๆ บริษัทพร้อมนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป
ความคิดเห็น
/