ชาวบ้านร้องได้รับความเดือดร้อนจากน้ำในคลองสาธารณะเน่าดำ ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง พบปลาในน้ำลอยตายบ้างแล้ว เทศบาลนครแหลมฉบังทราบเรื่องส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบคุณภาพน้ำพบมีค่าออกซิเจนต่ำมาก ปลาไม่สามารถอยู่ได้ แก้ไขเฉพาะหน้าใช้รถน้ำฉีดดันน้ำต้นทางลงสู่ทะเล
วันนี้ ( 23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านแหลมฉบังเก่า ต.ทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนจากน้ำในคลองสาธารณะแหลมฉบัง ที่เน่าเสียจนเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง และพบปลาบางชนิดลอยตายเป็นจำนวนมาก ให้ช่วยมาตรวจสอบและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการแก้ไขให้ประชาชนด้วย
หลังได้รับทราบข้อมูลผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายชาญ ชังคะรัตน์ รองประธานชุมชนบ้านบ้านแหลมฉบัง พร้อมเปิดเผยว่า เหตุการณ์น้ำเน่าเสียในครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่อยู่มา น้ำมีสภาพขุ่นดำ เน่าเหม็น และมีกลิ่นเหม็นรุนแรง โดยเป็นเช่นนี้มาสองวันแล้ว เริ่มมีปลาตายให้เห็นกันแล้ว โดยเหตุการณ์นี้น่าจะเกิดจากพื้นที่ด้านบนปล่อยน้ำเสียลงมาโดยไม่มีการบำบัด แล้วมาสะสมอยู่บริเวณบ่อกักน้ำด้านบนชุมชน ก่อนจะไหลลงมาสู่ด้านล่างตามคลองสาธารณะทำให้เกิดน้ำเน่าเหม็นดังกล่าว ส่วนที่ว่าเกิดมาจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังปล่อยน้ำเสียลงมานั้นก็ไม่น่าจะใช่ เนื่องจากน้ำเสียจากในโรงงานจะต้องถูกบำบัดก่อน แล้วมาเข้าโรงบำบัดน้ำของกัสโก้เมื่อได้คุณภาพน้ำที่ได้คุณภาพแล้วก็จะปล่อยลงสู่คลองสาธารณะ และเมื่อเกิดเหตุได้ไปตรวจสอบแล้วไม่พบว่าน้ำเสียมาจากนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งพบว่าน้ำตลอดทั้งสายเน่าเสียตลอดทั้งเส้นยาวกว่า 10 กม. ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาในระยะยาวกันด้วย
หลังจากนั้นเทศบาลนครแหลมฉบังทราบเรื่อง ได้ส่งเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมลงมาตรวจสอบคุณภาพน้ำพบว่าค่าออกซิเจนมีค่าต่ำมาก ปลาหรือสิ่งมีชีวิตบางชนิดไม่สามารถอยู่ในน้ำได้ รวมทั้งค่าความเค็มก็สูง ทำให้สัตว์น้ำบางชนิดลอยตายดังกล่าว ซึ่งทางเทศบาลนครแหลมฉบังได้แก้ไขเบื้องต้นด้วยการใช้รถน้ำปล่อยน้ำผลักดันน้ำเสียระบายลงสู่ทะเล ซึ่งจะแก้ไขปัญหาน้ำเน่าและส่งกลิ่นเหม็นได้ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาต้นตอของการเกิดน้ำเสีย และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
วันนี้ ( 23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านแหลมฉบังเก่า ต.ทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนจากน้ำในคลองสาธารณะแหลมฉบัง ที่เน่าเสียจนเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง และพบปลาบางชนิดลอยตายเป็นจำนวนมาก ให้ช่วยมาตรวจสอบและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการแก้ไขให้ประชาชนด้วย
หลังได้รับทราบข้อมูลผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายชาญ ชังคะรัตน์ รองประธานชุมชนบ้านบ้านแหลมฉบัง พร้อมเปิดเผยว่า เหตุการณ์น้ำเน่าเสียในครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่อยู่มา น้ำมีสภาพขุ่นดำ เน่าเหม็น และมีกลิ่นเหม็นรุนแรง โดยเป็นเช่นนี้มาสองวันแล้ว เริ่มมีปลาตายให้เห็นกันแล้ว โดยเหตุการณ์นี้น่าจะเกิดจากพื้นที่ด้านบนปล่อยน้ำเสียลงมาโดยไม่มีการบำบัด แล้วมาสะสมอยู่บริเวณบ่อกักน้ำด้านบนชุมชน ก่อนจะไหลลงมาสู่ด้านล่างตามคลองสาธารณะทำให้เกิดน้ำเน่าเหม็นดังกล่าว ส่วนที่ว่าเกิดมาจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังปล่อยน้ำเสียลงมานั้นก็ไม่น่าจะใช่ เนื่องจากน้ำเสียจากในโรงงานจะต้องถูกบำบัดก่อน แล้วมาเข้าโรงบำบัดน้ำของกัสโก้เมื่อได้คุณภาพน้ำที่ได้คุณภาพแล้วก็จะปล่อยลงสู่คลองสาธารณะ และเมื่อเกิดเหตุได้ไปตรวจสอบแล้วไม่พบว่าน้ำเสียมาจากนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งพบว่าน้ำตลอดทั้งสายเน่าเสียตลอดทั้งเส้นยาวกว่า 10 กม. ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาในระยะยาวกันด้วย
หลังจากนั้นเทศบาลนครแหลมฉบังทราบเรื่อง ได้ส่งเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมลงมาตรวจสอบคุณภาพน้ำพบว่าค่าออกซิเจนมีค่าต่ำมาก ปลาหรือสิ่งมีชีวิตบางชนิดไม่สามารถอยู่ในน้ำได้ รวมทั้งค่าความเค็มก็สูง ทำให้สัตว์น้ำบางชนิดลอยตายดังกล่าว ซึ่งทางเทศบาลนครแหลมฉบังได้แก้ไขเบื้องต้นด้วยการใช้รถน้ำปล่อยน้ำผลักดันน้ำเสียระบายลงสู่ทะเล ซึ่งจะแก้ไขปัญหาน้ำเน่าและส่งกลิ่นเหม็นได้ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาต้นตอของการเกิดน้ำเสีย และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
ความคิดเห็น
/