“เครือสหพัฒน์”
สยายปีกธุรกิจปี 62 ผุด ร.ร.นานาชาติมาตรฐาน
คิงส์ คอลเลจ ใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมรุกธุรกิจพลังงานระบบ Smart Grid รับความเปลี่ยนแปลงพลังงานยุคใหม่
ฟุ้งยอดขายสหกรุ๊ปแฟร์ พุ่ง 20% ย้ำเศรษฐกิจไทยยังไปได้
เมื่อเร็วๆ นี้ นายวิชัย กุลสมภพ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
ได้เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของ “เครือสหพัฒน์” ในปี
2562 ว่า จะเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจหลากหลายรูปแบบ ทั้งธุรกิจด้านการศึกษา
ด้วยการจับมือกับสุดยอดโรงเรียนจากประเทศอังกฤษ “คิงส์
คอลเลจ สกูล วิมเบิลดัน” (King’s College School, Wimbledon) เปิดโรงเรียนนานาชาติ
“คิงส์ คอลเลจ แบงคอก” (King’s College
International School Bangkok) บนถนนรัชดาภิเษก-พระราม 3
ซึ่งเป็นที่ดินที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ
โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดการเรียนการสอนในปีแรกได้ในปี
2563 เพื่อรองรับความต้องการสถานศึกษาที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ
และความต้องการสถานศึกษาที่มีความพร้อมสำหรับกลุ่มผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานได้เรียนในโรงเรียนที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก
และอยู่ไม่ไกลจากบ้าน
“เงินลงทุนของเครือสหพัฒน์ในวันนี้จะไม่ได้อยู่แค่การลงทุนเรื่องโรงงานเพื่อผลิตสินค้าเท่านั้น
แต่จะอยู่ในเรื่องของการศึกษาด้วย เราจึงตัดสินใจร่วมทุนกับนักลงทุนอื่นๆ
ที่มีทั้งนักวิชาการ และผู้ที่ต้องการเห็นการศึกษาในประเทศไทยที่จะมีการพัฒนา
โดยใช้ที่ดินที่มีอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ในเนื้อที่กว่า 30 ไร่
เป็นพื้นที่ก่อตั้งโรงเรียน
โดยมีเป้าหมายในการผลักดันการศึกษาของไทยให้ขึ้นแท่นศูนย์กลางศึกษาของภูมิภาคเอเชียในอนาคต”
นอกจากนั้น ในปี 2562
ยังเป็นปีที่สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์
จะเดินหน้าในเรื่องของธุรกิจพลังงานเพื่อรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีระบบ 5G
ที่จะทำให้การใช้พลังงานในเครือฯ
เปลี่ยนไปจากเดิมที่มีเพียงโรงไฟฟ้าสหโคเจน เพื่อป้อนกระแสไฟฟ้าให้แก่โรงงานต่างๆ
แต่จะมีการลงทุนในเรื่องของระบบโซลาร์บนหลังคา ด้วยการจับมือร่วมกลุ่ม GE จัดทำระบบ
Smart Grid หรือระบบโครงข่ายส่งไฟฟ้าอัจฉริยะแบบครบวงจร
โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สมาร์ทกริด
ที่จะทำหน้าที่ส่งไฟฟ้าจากผู้ให้บริการไปยังผู้ใช้บริการด้วยระบบการสื่อสาร 2 ทาง
“เราอาจเป็นที่แรกในเอเชียที่สามารถแจกจ่ายไฟฟ้าให้แก่โรงงานต่างๆ
ในสวนอุตสาหกรรมได้ในราคาที่ถูกลง
หรืออาจเป็นที่แรกของโลกที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ด้านพลังงานป้อนให้แก่ลูกค้าได้”
นายวิชัย ยังเผยอีกว่า
เครือสหพัฒน์ยังทำ MOU ร่วมกับกลุ่ม SOJITZ ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่พัฒนานิคมอุตสาหกรรมในประเทศญี่ปุ่น
และอีกหลายประเทศทั่วโลก
เพื่อร่วมกันพัฒนาสวนอุตสาหกรรมในประเทศไทยและประเทศแถบเอเชีย
ซึ่งจะทำให้เกิดการแนะนำลูกค้าระหว่างกันเพื่อให้มีโรงงานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง
ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยมากขึ้น
รวมทั้งยังเป็นการกระตุ้นการลงทุนในประเทศและสวนอุตสาหกรรมสหพัฒน์กบินทร์บุรี
ลำพูน และแม่สอด จ.ตาก หลังธุรกิจของไทยเริ่มถึงทางตัน
ความคิดเห็น
/