เทศบาลเมืองศรีราชา จังหวัดชลบุรี เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ การบริหารจัดการน้ำเสียยอดเยี่ยม ประเภท ระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนรวม ที่มีการบริหารจัดการน้ำเสียยอดเยี่ยม ในงาน "การจัดการน้ำเสียประเทศไทย" ประจำปี พ.ศ.2562 ภายใต้ประเด็น "เปลี่ยนน้ำเสีย เป็นน้ำใส เราคนไทยต้องร่วมมือ"
วันนี้ (16 ส.ค. 62) นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ได้เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณที่มีการบริหารจัดการน้ำเสียยอด ประเภท ระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนรวมยอดเยี่ยม ณ ห้องบีบีซี ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ในงาน "การจัดการน้ำเสียประเทศไทย" ประจำปี พ.ศ.2562 ภายใต้ประเด็น "เปลี่ยนน้ำเสีย เป็นน้ำใส เราคนไทยต้องร่วมมือ" โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานและมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการกับองค์การจัดการน้ำเสีย จำนวน 44 แห่ง
นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวว่า การจัดการน้ำเสียของประเทศไทยนับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประชาชนทุกคน เมื่อแหล่งน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง มีคุณภาพน้ำที่ดี ไม่เน่าเสีย ย่อมทำให้คุณภาพชีวิต สุขภาพอนามัยของเราทุกคนดีขึ้น แต่การที่จะทำให้การจัดการน้ำเสียของประเทศไทยประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจากต้นทาง คือในครัวเรือนของทุกคน โดยมีองค์การจัดการน้ำเสียเป็นกลไกในการขับเคลื่อนทั้งระบบของประเทศ หากทุกภาคส่วน ทั้งพี่น้องประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนได้ร่วมมือกัน ผมเชื่อว่าเราจะสามารถจัดการน้ำเสียของประเทศได้อย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวขอบคุณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นปราการด่านหน้าในการบริหารจัดการขยะและจัดการน้ำเสีย และเน้นย้ำว่า "สถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต้องร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการแยกขยะ และการจัดการน้ำเสียให้กับคนรุ่นใหม่ วันนี้อนาคตของประเทศต้องฝากไว้กับคนรุ่นใหม่ในการที่จะเข้ามาดู แลและสร้างวินัยตนเอง เราจะต้องทำให้เด็กเยาวชนเห็นความสำคัญของการจัดการน้ำเสีย และการจัดการขยะ" และขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาน้ำดังแนวคิด "เปลี่ยนน้ำเสียเป็นน้ำใส เราคนไทยต้องร่วมมือ" เพื่อทำให้ประเทศไทยของเรามีคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ด้านนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนในการมีส่วนร่วมดูแล และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางน้ำ ตลอดจนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กับประชาชนในด้านการบริหารจัดการน้ำเสียของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงการตอกย้ำในความร่วมมือของหน่วยงานภาคีด้านการบริหารจัดการน้ำเสียในการร่วมกันบำบัดน้ำเสีย เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับทุกพื้นที่ของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
วันนี้ (16 ส.ค. 62) นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ได้เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณที่มีการบริหารจัดการน้ำเสียยอด ประเภท ระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนรวมยอดเยี่ยม ณ ห้องบีบีซี ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ในงาน "การจัดการน้ำเสียประเทศไทย" ประจำปี พ.ศ.2562 ภายใต้ประเด็น "เปลี่ยนน้ำเสีย เป็นน้ำใส เราคนไทยต้องร่วมมือ" โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานและมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการกับองค์การจัดการน้ำเสีย จำนวน 44 แห่ง
นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวว่า การจัดการน้ำเสียของประเทศไทยนับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประชาชนทุกคน เมื่อแหล่งน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง มีคุณภาพน้ำที่ดี ไม่เน่าเสีย ย่อมทำให้คุณภาพชีวิต สุขภาพอนามัยของเราทุกคนดีขึ้น แต่การที่จะทำให้การจัดการน้ำเสียของประเทศไทยประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจากต้นทาง คือในครัวเรือนของทุกคน โดยมีองค์การจัดการน้ำเสียเป็นกลไกในการขับเคลื่อนทั้งระบบของประเทศ หากทุกภาคส่วน ทั้งพี่น้องประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนได้ร่วมมือกัน ผมเชื่อว่าเราจะสามารถจัดการน้ำเสียของประเทศได้อย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวขอบคุณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นปราการด่านหน้าในการบริหารจัดการขยะและจัดการน้ำเสีย และเน้นย้ำว่า "สถานศึกษาและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต้องร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการแยกขยะ และการจัดการน้ำเสียให้กับคนรุ่นใหม่ วันนี้อนาคตของประเทศต้องฝากไว้กับคนรุ่นใหม่ในการที่จะเข้ามาดู แลและสร้างวินัยตนเอง เราจะต้องทำให้เด็กเยาวชนเห็นความสำคัญของการจัดการน้ำเสีย และการจัดการขยะ" และขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาน้ำดังแนวคิด "เปลี่ยนน้ำเสียเป็นน้ำใส เราคนไทยต้องร่วมมือ" เพื่อทำให้ประเทศไทยของเรามีคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ด้านนายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนในการมีส่วนร่วมดูแล และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางน้ำ ตลอดจนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กับประชาชนในด้านการบริหารจัดการน้ำเสียของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงการตอกย้ำในความร่วมมือของหน่วยงานภาคีด้านการบริหารจัดการน้ำเสียในการร่วมกันบำบัดน้ำเสีย เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับทุกพื้นที่ของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
ความคิดเห็น
/