saostar

Banner โฆษณา

7 พรรคฝ่ายค้านจัดเวทีเสวนาโครงการ อีอีซีและรัฐธรรมนูญ

 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้านเดินหน้าตั้งเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนชาวศรีราชา เกี่ยวกับเรื่องโครงการอีอีซีกับการมีชีวิต กฎหมายและรัฐธรรมนูญ พบโครงการถมทะเล 3,000 ไร่ ทำชาวประมงพื้นบ้าน บางละมุง ศรีราชา เดือดร้อนแน่

                ที่ห้องแปซิฟิคฮอลล์ ศูนย์การค้าแปซิฟิคพาร์คศรีราชา จ.ชลบุรี กลุ่มตัวแทนพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคการเมือง นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  จากพรรคอนาคตใหม่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี จากพรรคเพื่อไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ นางสาวเบญจา แสงจันทร์ จากอนาคตใหม่ นายเรวัต วิศรุตเวช จากพรรคเสรีรวมไทย นายนิคม บุญวิเศษ จากพรรคพลังปวงชนไทย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ จากพรรคเพื่อชาติ นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ จากพรรคเศรษฐกิจใหม่ และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เข้าร่วมปาฐกถาเรื่อง หลากมุมมองโครงการอีอีซีกับการมีชีวิต กฎหมายและรัฐธรรมนูญที่ดี โดยมีประชาชนเข้าร่วมฟังจำนวนกว่า 600 คน

                ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวแทนพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรค ได้ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง บริเวณจุดรวมพล ที่ทำการชุมชนบ้านบางละมุง สถานที่ที่ทำการชุมชนบ้านบางละมุง ลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง รับฟังปัญหาชาวบ้านบางละมุงในโครงการท่าเทียบเรือเฟช 3 ของการท่าเรือแหลมฉบัง ก่อนเดินทางไปตั้งเวทีพูดคุยกับชาวบ้านเรื่องโครงการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน   ExxonMobile ที่ต้องถมทะเล 3,000 ไร่และผลกระทบต่อชุมชน ที่ ศาลาอเนกประสงบ้านแหลมฉบัง โดยพบว่ากลุ่มชาวประมงพื้นบ้านบางละมุงและประมงพื้นบ้านอ่าวอุดม แหลมฉบัง ประสบปัญหากับสองโครงการนี้

โดยนายรังสรรค์ สมบูรณ์ ตัวแทนกลุ่มชาวประมงบ้านบางละมุง-แหลมฉบัง เปิดเผยว่า การที่จะถมทะเล 1-3 พันไร่ ในบริเวณดังกล่าวนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะหากถมทะเลในพื้นที่ 1 กม. จะได้ที่ดินประมาณ 600 ไร่ นั่นหมายถึงต้องถมทะเลออกไปประมาณ 4 กม. จึงจะได้พื้นที่ตามเป้าหมาย 3,000 ไร่ น้ำในพิกัดเป้าหมายยังลึก 22-24 เมตร จะหาหินที่ไหนไปถม ที่สำคัญพื้นที่บริเวณดังกล่าวไม่มีทรายเลย มีแต่ดินเหนียวและตะกอนเลน ซึ่งในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้

การถมทะเลถึง 3,000 ไร่ ระบบนิเวศ สถานที่ทำกิน สัตว์น้ำวัยอ่อน และแนวปะการังชายฝั่งจะสูญหาย อาชีพประมงพื้นที่แห่งนี้คงล่มสลายไปพร้อมกับโครงการนี้ นอกจากนี้ จะมีผลกระทบตามมาอีกมากมายมหาศาล ทั้งในช่วงก่อสร้าง และหลังก่อสร้าง เช่น ตะกอนเลน ถ้าจากชายฝั่งไปทางทิศเหนือ ในช่วงมรสุมจะยิ่งมีปัญหามากกว่าโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ที่จะดำเนินการในเร็วๆ นี้ด้วย ซึ่งคงยอมไม่ได้อย่างแน่นอน

นายอมรศักดิ์ ปัญญาเจริญศรี นายกสมาคมประมงศรีราชา กล่าวว่า ทะเลบริเวณนี้เป็นแหล่งทรัพยากรสัตว์น้ำวัยอ่อน และวัยเจริญพันธุ์ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ที่สมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดชลบุรี และปัจจุบันนี้มีแหล่งอุตสาหกรรม ท่าเรือเต็มไปหมดอยู่แล้ว การนิคมฯ ยังจะมาถมทะเลอีกหรือ ถามว่าได้มีการสำรวจ และประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแล้วหรือยัง เพราะหากถมทะเลไปแล้วจะทำให้เกิดตะกอนเลนเพิ่มขึ้น ไม่ใช่แต่แค่พื้นที่แหลมฉบัง ศรีราชา บางละมุงเท่านั้น ซึ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นมหาศาลแน่นอน






ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ