saostar

Banner โฆษณา

สาวร้านกาแฟถูกปัดรัก คว้าปืนรัวยิงแฟนหนุ่ม ก่อนระเบิดสมองตนเองดับ

 สาวร้านกาแฟพกอาวุธปืนไปเคลียร์ปัญหาหัวใจกับแฟนหนุ่มที่เลิกรากันไปประมาณ 2 เดือนที่ทำงานของแฟนหนุ่ม แต่ถูกปฏิเสธ จึงคว้าอาวุธปืนไล่ยิงถูกขาได้รับบาดเจ็บ ก่อนหันอาวุธปืนระเบิดสมองตนเอง หนีปัญหา

                เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันนี้ ( 26 พ.ย. ) ศูนย์วิทยุ 191 สถานีตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท ใช้อาวุธปืนยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสสองราย ที่บริเวณสำนักงานท่าเรือแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.จักรพันธ์ กิตติสิริพรกุล.ผกก.สภ.ศรีราชา  เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ศรีราชา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา เข้าตรวจสอบ

                ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย-หญิง จำนวน 2 ราย รีบนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นางสาววรรณวิสา ธีรอัครวิภาส อายุ 22 ปี มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ ส่วนผู้ได้อีกรายคือ นายชาญวิทย์ สุขกุล อายุ 39 ปี ถูกยิงที่ขา ได้รับบาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุยังพบอาวุธปืนแม็กกาซีนไม่ทราบขนาด ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมปลอกกระสุนจำนวน 4 ปลอกบริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ และโรงอาหารของบริษัท

                จากการสอบสวนนางมะลิ พิทักษ์สิน มารดาของนางสาววรรณวิสา เปิดเผยว่า ลูกสาวคือ นางสาววรรณวิสา ทำงานในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง มีลูกกับสามีเก่าอยู่ 1 คน แล้วได้มาคบกับนายชาญวิทย์ คบหาเป็นแฟนกัน และเพิ่งจะเลิกรากันไปประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา  โดยฝ่ายหญิงยังมีใจให้กับฝ่ายชายและได้ติดต่อกันอยู่ แม้จะกลับไปอยู่กับสามีเก่าเพื่อเลี้ยงดูลูกที่มีร่วมกันเท่านั้น โดยในวันเกิดเหตุ นางสาววรรณวิสาได้ขี่จักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน เพื่อมาหานายชาญวิทย์ เพื่อที่จะเคลียร์ปัญหาเรื่องความรักที่ไม่ลงตัว บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ของบริษัท แต่ถูกนายชาญวิทย์ปฏิเสธที่จะไม่คบหากันต่อ จึงทำให้นางสาววรรณวิสาคว้าปืนที่พกมาโดยที่ไม่มีใครรู้ ไล่ยิงนายชาญวิทย์ประมาณ 3 นัด กระสุนเจาะเข้าที่ขาของนายชาญวิทย์ ก่อนที่นายชาญวิทย์จะวิ่งหลบหนีเข้าไปในออฟฟิศ ส่วนนางสาววรรณวิสาก็ตัดสินใจใช้อาวุธปืนที่พกมาหันปากกระบอกปืนเข้าที่ขมับตนเอง ก่อนจะลั่นไก กระสุนเจาะเข้าที่ศีรษะล้มคว่ำลงทันที

                ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุก่อนที่จะไปตรวจสอบอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บและรีบทำการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุพร้อมกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในบริษัทเพื่อใช้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป






ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ