บริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด ในเครือไทยออยล์
เปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่มีส่วนได้เสีย โครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก
(ส่วนขยาย ครั้งที่ 1 ) เพื่อขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น
386.4 เมกะวัตต์ ในการพัฒนาแหล่งพลังงานที่มีเสถียรภาพและความมั่นคงให้กับประเทศ
วันนี้ ( 25 พ.ย. ) นาย ธานี เกียรติพิพัฒนกุล รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง
จังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
และผู้มีส่วนได้เสีย ครั้งที่ 1
ต่อร่างข้อเสนอโครงการขอบเขตการศึกษาและการประเมินทางเลือกโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก(ส่วนขยายครั้งที่
1) ของบริษัทท็อป เอสพีพี จำกัด ในเครือไทยออยล์ โดยมี นายวิโรจน์ มีนะพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
ด้านกำกับองค์กรและกิจการสัมพันธ์ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ประชาชนในพื้นที่รอบโครงการ
เข้าร่วมการประชุมเป็นจำนวนมาก ณ ศาลาประชาคมอ่าวอุดม เทศบาลนครแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
บริษัท
ท็อป เอสพีพี จำกัด เป็นโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทไทยออยล์
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแหล่งพลังงานที่มีเสถียรภาพและความมั่นคงให้กับประเทศ
โดยการจำหน่ายพลังไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ้ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ)ภายใต้โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก
(SPP) รวมทั้ง จำหน่ายพลังไฟฟ้าและพลังงานความร้อน
ไอน้ำ โดยตรงให้กับโรงานในกลุ่มบริษัทไทยออยล์
ปัจจุบันโครงการเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ
ซึ่งรับก๊าซธรรมชาติจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 246.4
เมกะวัตต์ โดยโครงการมีแนวคิดขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า เป็น 386 4 เมกะวัตต์
(เพิ่มขึ้น140 เมกะวัตต์) เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการของกลุ่มบริษัทไทยออยล์
และการขยายโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ โดยติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันก๊าซขนาด 60 เมกะวัตต์ จำนวน 2ชุด และโอนย้ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบกังหันไอน้ำขนาด
20 เมกะวัตต์จำนวน 1 ชุด จากบริษัท ไทยออยล์เพาเวอร์ จำกัด เพื่อเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันไอน้ำหลักในโครงการ
การก่อสร้างโครงการจะใช้ระยะเวลาประมาณ
27 เดือน กำหนดแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน พ.ศ.2565 และทำการทดสอบการเดินเครื่อง
จากนั้นจึงจะสามารถเปิดดำเนินการได้ประมาณเดือนเมษายน พ.ศ. 2566
ความคิดเห็น
/