จากกรณีที่มีชาวบ้านเป็นจำนวนมาก บุกรุกและก่อสร้างบ้านพักอาศัย ทั้งแบบถาวรและแบบชั่วคราว บนพื้นที่ของการท่าเรือแหลมฉบัง ใกล้เคียงสถานีขนส่งรถไฟ ชุมชนบ้านทุ่ง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งที่ผ่านมาทางท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับ ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง เข้าเจรจาขอคืนพื้นที่ดังกล่าวจากผู้บุกรุก ได้บางแล้ว แต่ก็ยังมีผู้บุกรุกบางส่วนยังไม่ยอมย้ายออกไป
เรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ. เผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของท่าเรือแหลมฉบัง และบริเวณใต้ดินเป็นแนวท่อส่งน้ำมันแรงดันสูง ของบริษัท ปตท. ซึ่งเป็นพื้นที่อันตรายอย่างมากต่อผู้ที่เข้าไปบุกรุก เพราะมีการลักลอบขุดเจาะพื้นดิน เพื่อก่อสร้างที่พักอาศัย จึงกลายเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่จะได้รับอันตราย
ที่ผ่านมาท่าเรือแหลมฉบัง ได้แจ้งให้ผู้บุกรุกพื้นที่ ทราบล่วงหน้ามาตลอดระยะเวลาหลายปีแล้ว โดยมีบางรายยินยอมย้ายออกไป แต่บางรายยังไม่ยอมย้ายออก สำหรับผู้ที่ย้ายออกไปแล้วนั้น ทางท่าเรือแหลมฉบัง ได้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง โดยทรัพย์สินที่รื้อถอน ทางท่าเรือแหลมฉบัง ไม่ได้ทำลายหรือยึดไว้ โดยให้ทางเจ้าของมาขนย้ายออกให้เร็วที่สุด
“ทั้งนี้ทางท่าเรือไม่ได้ใจดำ เพียงเห็นว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าว ไม่มีความปลอดภัย และเมื่อเกิดอุบัติขึ้นมา ทางท่าเรือแหลมฉบัง ไม่สามารถจะรับผิดชอบอะไรได้ เพราะเป็นพื้นที่บุกรุก จึงต้องเร่งให้รื้อย้ายออกไปโดยเร็วที่สุด โดยที่ผ่านมาได้ ลงพื้นที่ไปเจรจาการกับผู้บุกรุกดังกล่าวแล้วโดยขอความร่วมมือว่าทางทางท่าเรือจะเวลาในการรื้อถอน ออกไปจนถึงวันที่ 12 เม.ย. นี้ ซึ่งผู้ที่บุกรุกได้รับทราบและได้ไปลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.แหลมฉบัง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทราบถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ แต่ถ้าไม่ดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนด ทางท่าเรือแหลมฉบังก็พร้อมดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป
ความคิดเห็น
/