สลด
เด็กนักเรียนวัย 14 ปี ซ้อนท้ายจักรยานยนต์เพื่อน
คุยกันอย่างสนุกสนานมาด้วยความเร็ว หันมาอีกที เจอรถพ่วงเลี้ยวเข้าซอย เบรกจนรถล้ม
คนซ้อนกระเด็นเข้าใต้ท้องรถ ถูกรถพ่วงทับกลางลำตัวลากไปตามพื้น เสียชีวิต
ส่วนคนเพื่อนคนขี่บาดเจ็บ
เมื่อเวลาประมาณ
15.20 น. วันนี้ ( 11 เม.ย. ) ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา จ.ชลบุรี
ได้รับแจ้งเหตุมีรถพ่วงชนกับรถจักรยานยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย 1 รายหมดสติ ปลุกไม่ตื่น
ที่บริเวณปากซอยชุมชนบ่อยาง 1 ตรงข้ามร้านเจ้าคุณ
หมู่ 9 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ
พร้อมประสานรถพยาบาลกู้ชีพ รพ.แหลมฉบัง และ ร.ต.อ.อัศวิน จันโท ร้อยเวรสอบสวน
สภ.หนองขาม เข้าร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วงเปล่ายี่ห้อ
ไวโนทรัค หมายเลขทะเบียน 73 6475 ชลบุรี มีนายกิจ
เจือจันทร์ทึก อายุ 40 ปี เป็นคนขับ จอดหันหน้าเข้าซอยบ่อยาง 1
อยู่ โดยมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ไอ สีขาวแดง
ทะเบียนป้ายแดงล้มคว่ำอยู่ โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยและพยาบาลกู้ชีพกำลังช่วยกันทำ CPR
เด็กชายวัย 14 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บถูกรถพ่วงทับที่บริเวณลำตัว จนเป็นแผลถลอกที่บริเวณหน้าอก
และมีบาดแผลที่ศีรษะ โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที
ทีมแพทย์ได้ยืนยันว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตลงแล้วในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย เป็นเด็กชายวัย 14 ปีเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อคือ
เด็กชายรัตนพล ยศสุพรม อายุ 14 ปี
มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย
จากการสอบสวน
นายเอกนรินทร์ ไชยงาม พ่อค้าส้มตำที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า
ก่อนเกิดเหตุตนเองอยู่ฝั่งตรงข้ามซอย เห็นรถพ่วงกำลังจะเลี้ยวเข้าซอย
ซึ่งจะต้องตีวงกว้าง กินเลนไปด้านขวา ขณะที่หัวรถพ่วงเลี้ยวเข้าไปในซอยแล้ว
ก็มีรถจักรยานยนต์ที่มีเด็กชายรัตนพลเป็นคนขี่และเด็กชายที่เสียชีวิตเป็นคนซ้อนขี่มาด้วยความเร็วมาทางด้านซ้าย
และหันหน้าคุยกันตลอดทาง จนมาถึงที่เกิดเหตุเด็กที่ขี่จักรยานยนต์หันกลับมาพอดี
จึงเบรกจนรถจักรยานยนต์ล้ม ส่วนเพื่อนคนซ้อนกระเด็นไปคว่ำหน้าใต้ท้องรถ
ซึ่งคนขับรถพ่วงไม่น่าจะเห็นจึงขับไปต่อ ได้ทับร่างเด็กและลากไปประมาณ 2 เมตร ก็มีคนตะโกนให้หยุดรถ
คนขับจึงจอดลงมาดูก็พบว่ามีเด็กนอนบาดเจ็บอยู่ใต้ท้องรถแล้ว
จึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาตรวจสอบดังกล่าว
ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
ก่อนติดต่อญาติเพื่อให้นำร่างไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
ส่วนทางด้านคดีก็จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่าย
รวมทั้งพยานในที่เกิดเหตุมาสอบสวนตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
ความคิดเห็น
/