กัปตันเรือขนส่งน้ำดิบ
ถูกเรือสองลำหนีบศีรษะกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ขณะพยายามดึงเรือมาติดกัน มีคลื่นลมแรง
จนร่างจมลงสู่ก้นทะเล เพื่อนห้ามไม่ฟัง จนรุ่งเช้าเพื่อนประสาน ศรชล และตำรวจน้ำ
ช่วยค้นหาร่างจนพบในช่วงบ่าย พบศีรษะถูกกระแทกจนผิดรูป
วันนี้ ( 30 พ.ค.) น.อ.ณัฐวุฒิ งามวงศ์วาน รอง
ผอ.ศรชล.จังหวัดชลบุรี และ น.อ.นันทพันธ์ ชำนาญไตรภพ หน.ศคท.จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้สูญหายไปในน้ำ
บริเวณท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์ ในช่วงเวลาประมาณ 00.00 น.ของวันที่ 29 พ.ค.63 จึงมอบหมายให้ น.ต.วรกฤต
ถาวรเลิศทวี และ น.ต.ประวิทย์ ตุ้ยด้วง บูรณาการร่วมกับตำรวจน้ำ โดย พ.ต.อ.วัลลภพ
พวงผกา ผกก.5 บก.รน.มอบหมายให้ ร.ต.อ.รณชิต ใจเที่ยงแท้ รอง สว.ส.รน.1 กก.5 บก.รน. นำเรือ รน.66 และกำลังพล จำนวน 6 นาย ออกค้นหา
นายบุญช่วย ไชโย กัปตันเรือสีชังมารีน ๒ ซึ่งเป็นเรือขนาด 300 ตัน มีคนประจำเรือ 2 คน จึงออกไปร่วมค้นหา
ที่จุดเกิดเหตุบริเวณแพเลี้ยงหอยแมลงภู่
ตั้งแต่ท่าเรือศรีราชาฮาร์เบอร์ถึงท่าเรือจรินทร์ อ.ศรีราชา และบริเวณใกล้เคียง
ระยะประมาณ 1.4 ไมล์ พบเรือสีชังมารีน 2 และสีชังมารีน 6 (จุดที่ตกน้ำ) จนกระทั่งเวลา
13.30 น.พบศพนายบุญช่วยฯ
ลอยขึ้นบริเวณระหว่างท้ายเรือกับแพเลี้ยงหอย ห่างจากเรือประมาณ 15 เมตร ดูจากลักษณะบาดแผลที่ศพบริเวณศีรษะด้านซ้ายบุบยุบจนผิดรูป คาดว่าเกิดจากช่วงพลัดตกน้ำ
มีคลื่นลมแรง ร่างนายบุญช่วยตกไปในช่องว่างระหว่างเรือ 2 ลำ คือสีชังมารีน 2 และเรือสีชังมารีน 6) จนถูกเรือสองลำหนีบจนตกน้ำเสียชีวิต หลังจากนั้นได้ใช้เรือตำรวจน้ำลากศพจากบริเวณที่พบมาที่ท่าเรือเกาะลอย
ศรีราชา โดยประสานรถมูลนิธิสว่างประทีป ศรีราชา มารับศพไปทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง
จากการสอบสวนนายศักดิ์ศรี
แถมมนตรี อายุ 55 ปี เพื่อนร่วมงานที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า
เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ตนเองและนายบุญช่วยได้นั่งเรือบรรทุกน้ำดิบไปส่งยังเรือที่จอดอยู่กลางทะเล
ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีคลื่นลมแรงทำให้เรือโครงเครงไปมา
ระหว่างที่เรือบรรทุกน้ำไปจอดตีคู่กับเรืออีกลำเพื่อจะขนถ่ายน้ำนั้น
นายบุญช่วยได้พยายามจะไปผูกเรือให้ติดกัน แต่ตนเองบอกว่าอย่างเพิ่งทำเลย
คลื่นลมยังแรงอยู่ แต่นายบุญช่วยไม่เชื่อ ลงไปพยายามผูกเรือติดกัน
แต่ระหว่างนั้นคลื่นได้พัดเรือทั้งสองลำเข้าหากันจนขอบเรือกระแทกใส่ศีรษะนายบุญช่วยจนตกเรือสูญหายไป
ตนพยายามหาทางช่วยเหลือและแจ้งไปยังบริษัทต้นสังกัดให้ส่งคนมาช่วยหาแต่ไม่พบ
จนกระทั่งรุ่งเช้าได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ศรชลและตำรวจน้ำให้ช่วยค้นหาอีกแรงจนพบศพดังกล่าว
ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.ศรีราชา ได้เข้าตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ
ก่อนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
ก่อนให้ญาตินำร่างไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
ความคิดเห็น
/