saostar

Banner โฆษณา

สังเวยปิดถนน แม่บ้านวัย 68 ปีไม่รู้ ชะลอรถ จยย เลี้ยวตัดหน้ารถบรรทุกน้ำทับดับ


            กล้องวงจรปิดจับภาพ แม่บ้านสังเวยชีวิตไม่รู้ว่ามีการปิดถนนข้ามแยกหนองยายบู่เพื่อปรับพื้นผิวถนน แม่บ้าน ขี่จักรยานยนต์มาตามเส้นทางประจำ พอเห็นว่าปิดถนนจึงจอดชะลอรถเตรียมเลี้ยวยูเทิร์นตรงแยกไฟแดง จึงถูกรถบรรทุกน้ำที่ขับมาชนทับศีรษะจนเสียชีวิต คนขับรถเผยมองไม่เห็นรถจักรยานยนต์

                เมื่อเวลาประมาณ 18.20 น.วันนี้ ( 15 มี.ค. ) ศูนย์วิทยุกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถพ่วงบรรทุกน้ำทับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ที่บริเวณแยกไฟแดงหนองยายบู่ ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาเข้าแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี จึงประสาน ร.ต.ท.หญิง วรางคณา เกตุอุดมสิน ร้อยเวร สอบสวน สภ.หนองขาม และรถอุปกรณ์ตัดถ่าง เข้าร่วมตรวจสอบ

                ในที่เกิดเหตุที่บริเวณแยกไฟแดงหนองยายบู่ มีการปิดถนนทั้งสองฝั่งเพื่อทำถนน รถทุกชนิดไม่สามารถข้ามผ่านไปมาได้ พบกับรถพ่วงบรรทุกน้ำ หมายเลขทะเบียน 70-3823 สุพรรณบุรี จอดอยู่บนถนน โดยมี นายสายชน แน่นหนา อายุ 44 ปีเป็นผู้ขับขี่ โดยล้อหน้าด้านขวาฝั่งคนขับได้ทับจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟไอสีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน 2 กฐ 5899 ชลบุรี ส่วนตัวลูกพ่วงบริเวณล้อหน้าฝั่งซ้ายพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ถูกล้อรถทับศีรษะคาอยู่ ศีรษะแตกละเอียดอยู่ในหมวกกันน็อก ทราบชื่อภายหลังคือ นาง กาญจนา เป็นรัมย์ อายุ 68 ปี มีอาชีพเป็นแม่บ้านในโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลหนองขาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่ายกล้อรถบรรทุกน้ำขึ้นแล้วนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากใต้ล้อรถ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่ถูกทับด้วยเช่นกัน

                จากการสอบสวน นายสายชน แน่นหนา เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางมาจากอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อจะมาเอาน้ำที่แหลมฉบัง พอขับมาพบการจราจรติดขัด จึงค่อย ๆ ขยับรถไปเรื่อย ๆ พอมาถึงที่เกิดเหตุรู้สึกว่ารถตนเองไปทับอะไรสักอย่าง ครั้งแรกนึกว่าล้อรถปีนฟุตปาธ จึงจอดรถลงไปดูเห็นว่าเหยียบรถจักรยานยนต์ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่ารถจักรยานยนต์มาทางไหน เพราะว่าการจราจรติดขัดจึงค่อย ๆ ขับตามกันมา พอรู้ว่ามีผู้เสียชีวิตจึงรู้สึกใจเสียเป็นอย่างมาก

                ทางด้าน นางนัฏฐาพร อินทะกะ อายุ 40 ปีลูกสะใภ้ผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า เพิ่งทราบว่าแม่สามีเกิดอุบัติเหตุจึงออกมาดู ซึ่งปกตินาง กาญจนา จะออกจากบ้านไปทำงานเป็นแม่บ้านที่โครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเวลา 8 โมงเช้าทุกวัน และกลับมาประมาณไม่เกิน 18.30 น.ทุกวัน มาวันนี้ได้รับโทรศัพท์จึงออกมา ก่อนหน้านี้ก้ไม่มีลางสังหรณ์อะไร เพียงแต่บ่นว่าปวดหลังอยากจะลาออกจากงาน ส่วนถูก ๆ ก็อยากให้ออกจากงานด้วย เนื่องจากเป็นห่วงที่นางกาญจนาขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงาน ทั้งที่สายตาไม่ค่อยดี จึงบอกให้กลับบ้านเร็ว ๆ พอมาประสบเหตุแบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ พูดอะไรไม่ออกเลย คาดว่านางกาญจนาจะยังไม่รู้ว่าเส้นทางนี้ปิดไม่ให้ผ่าน เนื่องจากเพิ่งจะปิดถนนเมื่อช่วงสาย ๆ ของวันนี้เอง จึงทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าว

                ซึ่งก่อนหน้านี้ถนนเส้นนี้มีการซ่อมแซมถนนมานานหลายเดือนแล้ว แต่ยังเปิดให้รถทุกชนิดสามารถข้ามแยกนี้ไปมาได้ แต่เพิ่งมาปิดถนนในช่วงสายของวันนี้ ทำให้ผู้เสียชีวิตที่เดินทางไปทำงานในช่วงเช้าก่อนปิดถนนยังไม่รู้ว่ามีการปิดถนน รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ จึงขี่กลับบ้านมาตามปกติ พอมาถึงที่เกิดเหตุแซงรถบรรทุกน้ำเพื่อจะไปจอดติดไฟแดงรอเลี้ยว แต่พอเห็นว่าถนนปิด รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ จึงลังเลไม่รู้จะไปทางไหนจึงจอดเพื่อจะย้อนไปทางกลับรถ แต่รถพ่วงบรรทุกน้ำมองไม่เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์จอดชะลออยู่ด้านหน้าจึงชนแล้วทับร่างเสียชีวิตดังกล่าว

                ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุ และรวบรวมหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง และเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้มาสอบสวนที่ สภ.หนองขามเพื่อดำเนินการตามกระบวนกฎหมายต่อไป

                





 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ