สำนักงานสถิติแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตาม “คุณมาดี” เก็บข้อมูลสำมะโนประชากรและเคหะโดยใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ในตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พื้นที่ต้นแบบ EEC พร้อมเตรียมยกระดับการทำงานสู่รัฐบาลดิจิทัล
วันนี้ (11 มี.ค. ) นางสาววันเพ็ญ พูลวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ
(สสช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ชุมชนหนองขาม
อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ติดตาม “คุณมาดี” เก็บข้อมูลสำมะโนประชากรและเคหะในพื้นที่ต้นแบบเขต
EEC เพื่อศึกษาแนวทางการปรับเปลี่ยนและพัฒนาการทำสำมะโนประชากรและเคหะ
โดยใช้ฐานข้อมูลทะเบียนภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19
พร้อมเผยทิศทางการดำเนินงานพร้อมนำองค์กรเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล
นางสาววันเพ็ญ พูลวงษ์
ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบ การส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อสัมภาษณ์ประชาชนนั้น
ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงปรับเปลี่ยนวิธีการทำสำมะโนในรูปแบบใหม่ โดยให้มีการศึกษา
‘โครงการการศึกษาและพัฒนาต้นแบบการจัดทำสำมะโนประชากรและเคหะจากฐานข้อมูลทะเบียน
เป็นโครงการนำร่องที่จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาแนวทางการปรับเปลี่ยนและพัฒนารูปแบบ
กรอบแนวคิด และวิธีการทำสำมะโน โดยใช้ฐานข้อมูลทะเบียน เสริมวิธีการจัดทำสำมะโนประชากรและเคหะ
เพื่อให้ได้ข้อมูล ที่ถูกต้อง ครบถ้วน และครอบคลุมประชากรของประเทศ
ซึ่งได้ดำเนินการใน 3
จังหวัดซึ่งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่
จังหวัดระยอง จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดชลบุรี ใน 2 อำเภอ ได้แก่
อำเภอศรีราชาและอำเภอพนัสนิคม
เป็นการเก็บข้อมูลจากประชากรทุกคนตามที่อยู่อาศัยจริง ณ วันที่กำหนด
โดยใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการทำสำมะโนของประเทศ
เพราะสามารถใช้ข้อมูลจากทะเบียนที่หน่วยงานภาครัฐอื่นๆ
มีอยู่แล้วมาใช้แทนการปฏิบัติงานสนามได้
นอกจากโครงการ Register-based
Census แล้ว ในปีที่ผ่านมา สสช.
ได้บูรณาการทำงานร่วมกับ
หน่วยงานต่างๆ โดยได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
และสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ
หรือ GBDi พัฒนา “ระบบบัญชีข้อมูล
ภาครัฐ หรือ Government Data Catalog” เรียกสั้นๆ
ว่า GD Catalog ซึ่งถือเป็นสมุดหน้าเหลืองรวบรวม
รายการข้อมูลภาครัฐ
และเปิดให้หน่วยงานเจ้าของข้อมูลเข้ามามีส่วนร่วมในการให้บริการข้อมูลข้ามหน่วยงาน
ได้อย่างเป็นระบบ รวดเร็ว และปลอดภัย
เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการข้อมูลแก่ประชาชน โดยจะ
พัฒนาเป็น Digital Platform ด้านข้อมูลเพื่อใช้งานร่วมกันในระดับประเทศ
(GD Catalog Platform) ต่อไป
นับเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการขับเคลื่อนสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ
เล่าถึงประโยชน์ของระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐว่าจะช่วยลด
ระยะเวลาการสืบค้นและศึกษาข้อมูล
เนื่องจากมีการจัดการบัญชีข้อมูลภาครัฐอย่างเป็นระบบ มีคำอธิบาย
ข้อมูลที่แสดงถึงแหล่งที่มาจากเจ้าของข้อมูลที่แท้จริง
โดยตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของ GD Catalog
เช่น ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
การมีบัญชีข้อมูลภาครัฐทำให้ทราบว่าข้อมูลสำคัญที่ต้อง
ใช้ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 มีการจัดเก็บอยู่หรือไม่
อยู่ที่หน่วยงานใด จัดเก็บอยู่ในรูปแบบใด
ซึ่ง GBDi ได้รวบรวมบัญชีข้อมูลและนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19
มากกว่า 100 รายการ
“สำนักงานสถิติแห่งชาติ
มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานในยุคการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล มุ่งเน้นการ
จัดทำข้อมูลและให้บริการข้อมูลสถิติที่สอดคล้องตอบโจทย์
ถูกต้อง และทันต่อสถานการณ์ของประเทศ
โดยพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้ในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลให้มากขึ้น
เช่น การพัฒนาระบบแบบสอบถาม
ออนไลน์
การใช้แท็บเล็ตในการเก็บและปรับปรุงข้อมูล การพัฒนาระบบการบริการข้อมูลแบบ API
เป็นต้น
สำหรับปี พ.ศ. 2564-2565
มีโครงการสำคัญที่จะดำเนินการ ดังนี้ โครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565
โครงการสำมะโนการเกษตร พ.ศ. 2566
โครงการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร โครงการยกระดับ
การสำรวจข้อมูลของ สสช.
เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่องค์กรสถิติดิจิทัล และโครงการจัดทำฐานข้อมูลผู้ถือ
ครองทำการเกษตรของประเทศไทยโดยฐานข้อมูลขนาดใหญ่
เพื่อใช้เป็นฐานในการจัดทำสำมะโนการเกษตร
พ.ศ. 2566 เป็นต้น”
ความคิดเห็น
/