กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายบุกเดี่ยว ใช้ลวดจุ่มกาวซิลิโคนหย่อนใส่ตู้บริจาคเงินวัดสวนสันติธรรมอย่างใจเย็น ลักเงินบริจาคหลบหนีลอยนวล คาดคนร้ายรู้จักพื้นที่และความเคลื่อนไหวของคนในวัดเป็นอย่างดี
เมื่อเวลาประมาณ
11.00 น.วันนี้ ( 19 มี.ค. ) ร.ต.อ.แดนศักดิ์ พูลดี ร้อยเวนสอบสวน สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี
ได้รับแจ้งจาก นายประสาน พุทธกุลสมศิริ อายุ 52 ปี ไวยาวัจกรวัดสวนสันติธรรม หมู่ 6 บ้านโค้งดารา ต.หนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ว่ามีคนร้ายเข้าไปลักเงินบริจาคภายในตู้เซฟรับเงินบริจาคของวัดสวนสันติธรรม
โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพพฤติกรรมของคนร้ายไว้ได้
จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หนองขาม เข้าร่วม
ในที่เกิดเหตุพบ
นางสาวชยาทร เตชะไพบูลย์ อายุ 49 ปี
เจ้าหน้าที่ในวัดเดินชี้จุดและให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
โดยชี้ให้ดูตู้นิรภัยรับบริจาคเงินทำบุญที่ตั้งอยู่ในพระอุโบสถจำนวน 3 ตู้ บริเวณหน้าประตูทางเข้าโบสถ์
พร้อมทั้งร่องรอยเท้าของคนร้ายที่ทิ้งไว้บริเวณอาสนะที่นั่งของพระสงฆ์เป็นรอยเท้าเห็นได้อย่างชัดเจน ส่วนเงินรับบริจาคที่คนร้ายลักไปนั้นยังไม่ทราบจำนวนที่ชัดเจน
เนื่องจากไม่ทราบว่าในตู้รับบริจาคมีเงินจำนวนเท่าไร ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายไว้ได้
โดยเหตุการณ์เริ่มจากคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอมสูงประมาณ
170 ซ.ม.
ใช้เสื้อคลุมศีรษะปิดบังใบหน้าจนเห็นแต่ตา ใส่เสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงกีฬาขายาวสีดำ
มีโลโก้ชุดกีฬายี่ห้อดัง สวมถุงมือ ปีนรั้วกำแพงเข้ามาในวัดบริเวณฝั่งโรงอาหาร ในเวลาประมาณ
01.22 นาที ก่อนเดินเข้ามาในโบสถ์แล้วค้นหาสิ่งของมีค่าประมาณ
16 นาที แต่ไม่ได้ลักสิ่งของมีค่าอะไรไป
ก่อนเดินออกไปด้านนอกที่บริเวณพื้นที่ก่อสร้าง
คาดว่าน่าจะไปหาสิ่งอำนวยความสะดวกในการลักทรัพย์สิน ประมาณครึ่งชั่วโมง
แล้วกลับเข้ามาที่ตู้นิรภัยใส่เงินทำบุญในโบสถ์อีกครั้ง โดยนำลวดและขวดน้ำลักษณะเหมือนกาวซิลิโคน
ก่อนจะใช้ปลายลวดจุ่มไปขวดกาวซิลิโคนแล้วแหย่เข้าไปในตู้นิรภัยรับบริจาคเพื่อดึงเงินในตู้ออกมาได้เงินเป็นจำนวนมาก
แต่ไม่ทราบจำนวน ก่อนจะหลบหนีไป
โดยใช้เวลารวมทั้งสิ้นกว่า 1 ชั่วโมง
จากการสอบสวนตรวจสอบในที่เกิดเหตุและพฤติกรรมของคนร้ายเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า
คนร้ายน่าจะเป็นคนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง
เคยเข้ามาในวัดสวนสันติธรรมจนรู้ช่องทางเข้าออก และพฤติกรรมของคนที่อยู่ในวัดสวนสันติธรรมเป็นอย่างดี
จึงได้ก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวว่าจะมีคนจะมาเห็น
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลหลักฐานนำไปสืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินการตามกระบวนกฎหมายต่อไป
ความคิดเห็น
/