หนุ่มเชียงรายอดีตผู้ช่วยกุ๊กโรงแรมดังในเมืองพัทยา ออกจากงานหันมาขายขนมครกมานาน จนสามารถซื้อบ้านเป็นของตนเองได้ 1 หลัง แต่ก่อนจะออกจากบ้านต้องแต่งตัวหล่อ ผูกเนคไท แล้วขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างออกมาขายขนมครก ซึ่งถ้าไม่แต่งแบบนี้จะรู้สึกไม่หล่อ ไม่มั่นใจ แล้วจะไม่ออกมาขาย
วันนี้
(29 เม.ย. ) ผู้สื่อข่าวได้พบเห็นชายหนุ่ม
แต่งตัวดี ผูกเนคไท ขี่รถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างตระเวนขายขนมครกอยู่บริเวณหน้าโรงงานไลอ้อน
หน้าเครือสหพัฒน์ ถนนสายสุขาภิบาล 8 หมู่ 10 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงเข้าไปสอบถามทราบชื่อคือ
นายจันทร์ สุภารัตน์ อายุ 47 ปี
เป็นชาวจังหวัดเชียงราย อดีตทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กอยู่ในโรงแรมชื่อดังในเมืองพัทยา
จังหวัดชลบุรี ก่อนจะลาออก แล้วหันมาขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายขนมครก ปลดหนี้บริเวณพื้นที่สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ศรีราชามาเป็นระยะเวลาประมาณ
14 ปี โดยพบว่า นายจันทร์ สุภารัตน์
มักจะแต่งตัวดี ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ และจะผูกเนคไททุกครั้งที่ออกมาขายขนมครก รวมทั้งบุคลิกเป็นคนร่าเริง
แจ่มใส พูดคุยเก่ง จึงเป็นที่สนใจของหนุ่มสาวโรงงานในละแวกดังกล่าวมาอุดหนุนขนมครกปลดหนี้
ซึ่งวันไหนนายจันทร์ไม่ได้ผูกเนคไท
ก็จะไม่ยอมออกมาขายขนมครก เนื่องจากเกิดความไม่มั่นใจในการแต่งตัว คือถ้ารู้สึกว่าไม่หล่อ
ไม่ได้ผูกเนคไท ไม่ได้ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบก็จะไม่ยอมออกมาขายขนมครกดังกล่าว
ซึ่งขนมครกที่ขายนั้นราคาไม่แพง
รสชาติอร่อย หวานมัน มีให้เลือกหลายไส้ ทั้งไส้ต้นหอมรสดั้งเดิม ไส้เผือก ไส้ฟักทอง
ไส้ข้าวโพด ไส้มันม่วง และไส้ฝอยทอง ขายในราคาถาดละ 40 บาท มี 14 คู่ ในช่วงที่ยังไม่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด
19 เคยขายได้วันหนึ่งประมาณ 2,500 บาท หลังจากมีการระบาดของไวรัสโควิด 19 รายได้หายไปจนเหลือวันละไม่ถึง 1,000 บาท ซึ่งอย่างต่ำจะขายได้อย่างน้อย 500 บาททุกวัน สร้างรายได้ให้อย่างดี จนวันนี้สามารถผ่อนทาวเฮ้าส์ชั้นเดียวในราคากว่าสองล้านบาทมาเป็นของตนเองได้แล้ว
ในระยะเวลาประมาณ 14 ปี โดยมีหนุ่มสาวภายในโรงงานและชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นลูกค้ามาซื้อกลับไปกินเป็นประจำ
ซึ่งนายจันทร์จะออกมาขายขนมครกสองรอบ คือรอบเช้าตั้งแต่เวลา 05.00 -11.00 น.และช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 14.00-18.00 น. เป็นประจำทุกวัน
นายจันทร์
เปิดเผยว่า โดยปกติตนเองจะแต่งตัวแบบนี้ออกมาขายขนมครกทุกครั้ง
ถ้าไม่ใส่เนคไทหรือรองเท้าแตะก็จะไม่ออกมาขาย เพราะรู้สึกไม่มั่นใจ
จึงตัดสินใจไม่ออกมาขายดีกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กอยู่ในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา
แต่รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย จึงได้ลาออกมา แล้วหันมาขายขนมครก
เนื่องจากรู้สึกสบายใจและรู้สึกมีอิสระดี ได้มากได้น้อยก็อยู่ที่เราสบายใจ
รายได้ที่ทำอยู่โรงแรมยังสู้รายได้จากการขายขนมครกไม่ได้เลย
ขายขนมครกมีรายได้ดีกว่า จนตอนนี้สามารถซื้อบ้านเป็นของตนเองได้แล้ว แต่ช่วงนี้รายได้แย่ลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด
19 จากรายได้วันละประมาณ 2,500 บาท จนมาเหลือ 800-1,000 บาท จนตอนนี้ได้วันละ
500 บาทก็พอใจแล้ว
ความคิดเห็น
/