วงจรปิด ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจ
สภ.ศรีราชา เข้าควบคุมตัวพ่อค้าสับปะรด ที่นั่งกินเบียร์ขายสับปะรดอยู่กับเพื่อนรวม
2 คน ในช่วงเย็น ก่อนจับปรับในข้อหา พรก.ฉุกเฉิน ไปคนละ 1 พันบาท พ่อค้าสุดงง
ฝ่าฝืนตรงไหน ล่าสุดตำรวจชุดจับกุมคืนเงินค่าปรับมาฝากให้เถ้าแก่ 3,000 บาทแล้ว
วันนี้ ( 13 ต.ค. )
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายเอก (นามสมมุติ) พ่อค้าสับปะรด บริเวณซอยวัดเขาแตงอ่อน
ม.1 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรีว่าขณะกำลังนั่งขายสับปะรดอยู่ริมถนนบริเวณที่เกิดเหตุนั้น
ในช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.30 น.ของวันที่ 11 ต.ค. 64
ที่ผ่านมา
โดยตนเองขายสับปะรดอยู่นั้น ได้มีเพื่อนคนที่รู้จักกันมาสั่งอาหารร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ใกล้กัน
ตนเองจึงเรียกทักทายตามปะสาคนรู้จักกัน และชวนมานั่งรอที่ร้าน และขวนให้ดื่มซื้อเบียร์มาดื่มระหว่างรอกันคนละ
1 ขวด พอคุยกันได้ไม่นานได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ศรีราชา 2
คน
ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดที่หน้าร้าน ก่อนเดินเข้ามาหาตนเองและเพื่อน แล้วบอกว่า มานั่งทำอะไรกัน รู้ไหมตอนนี้เขา
มีประกาศเคอร์ฟิวที่มีโรคระบาดกันอยู่ มานั่งกินกันได้อย่างไร ตนเองก็รู้สึกงง
และตอบกลับไปว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเคอร์ฟิวเลย แล้วตนเองก็นั่งกินกันแค่สองคน
และพยายามอธิบายว่า ปกติตนขายของอยู่ก็ดื่มกินคนเดียวเป็นประจำอยู่แล้ว
ส่วนเพื่อนที่มานั่งกินด้วยก็ไม่ได้ตั้งใจจะมากิน
แต่มาสั่งอาหารร้านอาหารตามสั่งกลับไปกินที่บ้าน และระหว่างรอ
ตนเองจึงชวนมานั่งรอที่ร้านแล้ว จึงชวนนั่งกินด้วยกันสองคนและคุยกันตามปกติ
ต่อมาก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถยนต์กระบะตราโล่เข้ามาจอดที่ร้านอีก 2 คน
รวมทั้งหมดมากัน 4 คน
โดยหัวหน้าชุดได้สั่งให้ตนเองเก็บของแล้วไปเคลียร์กันที่ สภ.ศรีราชา
ตนบอกขอรอแฟนมาเก็บของก่อนได้ไหม ไม่มีคนอยู่ร้านเลย
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถ่ายรูปตนเองอยู่ด้วย หลังจากนั้นก็ยังตะคอกมาอีกว่าให้รีบ ๆ
เดี๋ยวล็อคกุญแจมือ จะให้ไปดีดีหรือบังคับไป
เดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่าขัดขืนเจ้าพนักงานอีก แล้วแฟนก็มา และพากันไปที่สถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เรียกค่าปรับ
คนละ 1,000 บาท อ้างเป็นการนั่งมั่วสุมกัน ก่อนจะปล่อยตัวออกมา
ตนเองก็สงสัยว่าเวลา 18.30 น.มันยังไม่ถึงเวลาเคอร์ฟิว
22.00 น.เลย จะเคอร์ฟิวได้ยังไง ซึ่งตามปกติพอถึงเวลา 20.00 น.ตนเองก็ปิดร้านเข้าบ้านแล้ว
ปกติก็นั่งกินเบียร์ขายสับปะรดไปด้วย ไม่ได้มั่วสุมอะไรเลย
ตนเองรู้สึกไม่พอใจการกระทำแบบนี้ ก็ยอมไปที่ สภ.ศรีราชาก่อน กลับมาค่อยว่ากันใหม่
ผมก็ไม่ยอม ตอนนั้นรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากด้วย ทำอะไรไม่ได้ คิดว่าอย่างไรก้โดนจับแน่นอน
ตอนที่อยู่สถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้ขอดูโทรศัพท์มือถือว่าถ่ายคลิปอะไรไว้หรือไม่
พอตรวจสอบพบว่าไม่ได้ถ่ายคลิปไว้ จึงส่งคืนมาให้ตนเอง และให้กลับบ้านได้
ด้านแฟนสาวของนายเอก เปิดเผยว่า
ตนเองออกไปข้างนอก แล้วขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่ร้าน เห็นตำรวจมาที่ร้านหลายคน ตนเองก็ตกใจมาก
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เลยเข้าไปสอบถามจึงทราบว่าโดนจับเรื่องกินเบียร์ พอดีมีลูกค้ามายืนซื้อสับปะรด
ตนเองบอกขอเวลาสักครู่ได้ไหม ขอขายของให้ลูกค้าก่อน ตำรวจก็เร่งเรา
ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย พอไปถึง สภ.ศรีราชา
ตำรวจบอกต้องเสียค่าปรับ มิเช่นนั้นต้องไปที่ศาล จึงถามว่าต้องเสียเท่าไร
ตำรวจบอกคนละ 1 พันบาทถ้าไม่เสียจะต้องนอนห้องขังก่อน 1 คืน จึงขอเวลาไปหาเงินมาเสียค่าปรับให้ก่อน
แบบไม่อยากให้แฟนและเพื่อนต้องนอนในคุก หลังจากนั้นจึงออกไปหาเงินมาจ่ายให้ตำรวจ 2
พัน
ตำรวจจึงปล่อยออกมา ซึ่งตนเองมีรายได้ขายสับปะรดได้เงินวันละ 200-400 บาทเท่านั้นเอง
ล่าสุดหลังนั้น นายเอก (นามสมมุติ) กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบข่าวว่ามีการร้องเรียน
ทีมตำรวจชุดดังกล่าวได้ติดต่อเถ้าแก่ตนเอง แล้วเถ้าแก่โทรมาบอกว่าไปทำอะไรมา
ตำรวจเดือดร้อนกันไปหมดแล้ว ผมก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไร เพราะผมไม่ได้ทำผิด
และขอเบอร์ผม โทรหาผมทันที บอกช่วยแก้ข่าว ลบคลิปให้ได้ไหม ตนเองบอกลบไม่ทันแล้ว
ออกไปไกลแล้ว รวมทั้งยังฝากเงินคืนมากับเถ้าแก่อีกจำนวน 3,000 บาท อีกด้วย
ความคิดเห็น
/