หนุ่มอัลไซเมอร์อาการกำเริบ ขับรถยนต์เก๋งจอดเปิดประตูขวางถนน พลเมืองดีเห็นเข้าไปตรวจสอบไม่พบคนขับ หน้ารถมีร่องรอยการเฉี่ยวชน นึกว่าหญิงสาวทะเลาะกัน นำกรวยมากั้นบอกสัญญาณไม่ให้รถคันอื่นมาชน มองเห็นอาวุธปืนในรถ แจ้งตำรวจร่วมตรวจสอบ กว่า 20 นาทีพลเมืองดีอีกคนเห็นจำเจ้าของรถได้ นำตัวตามหารถที่จอดทิ้งไว้จนเจอ เจ้าตัวเผยจำไม่ได้ ขอโทษทุกคนที่ช่วยเหลือ พบเป็นอาวุธปืนปลอม
เมื่อเวลาประมาณ
16.30 น.วันนี้ ( 21 พ.ค. 65) ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา
จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากลูกข่ายว่าพบรถยนต์เก๋งจอดเปิดประตูทิ้งไว้กลางถนน
มีร่องรอยการเฉี่ยวชนที่บริเวณกันชนหน้ารถ แต่ไม่พบผู้ขับขี่ ซึ่งภายในรถยังพบอาวุธปืนเหน็บอยู่บริเวณช่องใส่ของด้านประตูข้างคนขับ
จึงประสานขอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา เข้าร่วมตรวจสอบ ก่อนนำกรวยยางมาตั้งไว้เป็นสัญญาณให้รถที่สัญจรผ่านไปมาได้ระมัดระวัง
ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ที่บริเวณโค้งครัวคุณยาย
ถนนริมอ่างเก็บน้ำบางพระ หมู่ 11 ตำบลบางพระ
อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งมิตซูบิชิ
มิราจ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 6 กถ 9626 กรุงเทพมหานคร จอดทิ้งไว้อยู่กลางถนน โดยเปิดประตูด้านซ้ายทิ้งไว้ ซึ่งหน้ารถยนต์เก๋งมีร่องรอยการชนที่บริเวณกันชนรถด้านซ้ายได้รับความเสียหาย
แต่ไม่พบเจ้าของรถคันดังกล่าว อยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบในรถพบโทรศัพท์มือถือวางไว้บริเวณเบาะข้างคนขับ 1 เครื่อง รองเท้าผ้าใบสีดำ 1 ข้าง
และบริเวณที่เก็บของบริเวณข้างคนขับพบอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเหน็บอยู่ 1 กระบอก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้บันทึกภาพเก็บไว้แต่ยังไม่เข้าไปตรวจสอบ
ด้าน นายวิชิต ถมยา
อายุ 49 ปี พลเมืองดีที่พบรถยนต์คนแรก เปิดเผยว่า
ตนเองขับรถมาถึงที่เกิดเหตุก็พบว่ารถยนต์เก๋งจอดอยู่กลางถนนในสภาพกีดขวางถนนและประตูข้างซ้ายเปิดทิ้งไว้
ตนเองนึกว่าเจ้าของรถคงทะเลาะกัน แต่ไม่พบเจ้าของรถ
พอใช้สายตาสำรวจในรถพบว่ามีโทรศัพท์มือถือ รองเท้า 1 ข้าง ถุงเท้า กางเกงเด็กและอาวุธปืน
ซึ่งตนเองห็นว่ารถจอดอยู่กลางถนนค่อนข้างอันตราย จึงเอากรวยยางไปตั้งเอาไว้
กลัวรถยนต์ที่สัญจรผ่านไปมาจะเกิดอุบัติซ้ำซ้อน
จึงเดินดูโดยรอบบริเวณก้ไม่พบเจ้าของรถ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
หลังจากนั้นประมาณ
20 นาที ก็มีนายโก้ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 50
ปีใส่เสื้อยืดสีน้ำเงิน สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน
สวมรองเท้าผ้าใบ 1 ข้าง ซึ่งเหมือนกับรองเท้าที่ถูกทิ้งไว้ในรถ
เดินมาที่รถ
โดยแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว โดยนายโก้ได้แสดงหลักฐานว่าเป็นรถยนต์ของตนเองให้กับตำรวจดู
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอตรวจสอบอาวุธปืนที่อยู่ภายในรถ
พบว่าเป็นปืนพลาสติกของลูกชาย โดยนายโก้เปิดเผยว่า ตนเองขับรถมาจากพื้นที่แหลมฉบัง
ก่อนขับมาถึงที่เกิดเหตุ แล้วหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้ว่าตนเองทำอะไรลงไปบ้าง
ส่วน นายเอกภพ นิธิโรจน์ปัญญา อายุ 37 ปี เปิดเผยว่า
ตนเองขับรถขับรถออกมาจากฟาร์มในซอยใกล้ที่เกิดเหตุ ก็มาเจอพี่เค้าเดินอยู่หน้าฟาร์ม
พอดีเพื่อนรู้จัก ส่วนตนเองก็รู้จักแต่จำไม่ได้ ก็สงสัยว่าใครเดินมา
ใส่รองเท้าข้างเดียวมีอาการเบลอ ๆ พอนึกได้ว่าเป็นพี่เค้าก็เลยถอยรถกลับไปหา
และรับพี่เค้าขึ้นรถไปและคิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น จนเรียกความจำกลับคืนมาได้
และเอ่ยปากขอโทษและบอกว่าพี่ก่อเรื่องอีกแล้วแน่เลย ซึ่งถ้าบังเอิญไม่เจอตนเอง
พี่เค้าคงเดินไปถึงตีนเขา ซึ่งอยู่อีกไกลแน่นอน
โดยตอนขึ้นรถมาพี่เค้าจำอะไรไม่ได้เลย ต้องไล่เรียงกันสักพัก
ตนเองก็ขับรถตามหารถยนต์เก๋งของพี่เค้าที่จอดทิ้งไว้ไปทางเขาเขียวแล้ว
พอดีพี่เค้านึกขึ้นมาได้บ้าง จึงขับย้อนกลับมาตามถนนของอ่างเก็บน้ำบางพระ จนเพื่อนโทรมาบอกว่าพี่เค้าขับรถมาคนเดียว
มาทางขอบอ่างเก็บน้ำบางพระ จึงมาพบเจอรถในที่เกิดเหตุ
ซึ่งระยะทางที่พี่เค้าเดินไปเป็นระยะทาง 4-5 กิโลเมตร
ซึ่งตนเองก็พอทราบมาบ้างว่าพี่เค้าเป็นโรคอัลไซเมอร์หรือความจำสั้น ประมาณนี้
เค้าพักผ่อนน้อย จะมีอาการวูบ มักจะขับรถชนบ่อยครั้ง แล้วก็จะลืมว่าเคยทำอะไรมา
และชอบจอดรถแบบนี้ ซึ่งอันตรายเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นก็มีพลเมืองดีอาสาช่วยขับรถยนต์ไปส่ง นายโก้ (นามสมมุติ) กลับไปส่งยังที่พัก โดยนายโก้ได้ยกมือไหว้กล่าวขอโทษผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เจ้าตัวได้กระทำลงไปโดยไม่รู้สึกตัว ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านกันต่อไป โดยเจ้าหน้าที่กั้ยได้ฝากถึงครอบครัวที่มีผู้ป่วยแบบนี้ให้ช่วยดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
ความคิดเห็น
/