สาวใหญ่เมืองเก่าขี่รถจักรยานยนต์ขี่เทียบข้างรถพ่วง 18 ล้อที่กำลังจะเลี้ยวซ้าย มองไม่เห็นรถจักรยานยนต์ จึงขับทับร่างสาวใหญ่เสียชีวิต ก่อนลากรถจักรยานยนต์ไปไกลกว่า 100 เมตร จึงมีพลเมืองดีขี่จักรยานยนต์มาแจ้งเหตุ ถึงได้ทราบและจอดรถลงไปดู
เมื่อเวลาประมาณ
10.30 น.วันนี้ ( 11 พ.ค. 65 ) ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา
จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถพ่วง 18 ล้อทับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
1 ราย ที่บริเวณแยกเมืองทองเก่า หมู่ 10
ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
จึงประสาน ร.ต.ท.ปรัตถกร ศรีบุญเรือง ร้อยเวรสอบสวน สภ.แหลมฉบัง
และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าร่วมตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุบริเวณแยกเมืองทองเก่า
พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อต่อมาคือ นางสมหมาย ชาชุม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 3 ตำบลผักไห่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในสภาพนอนคว่ำหน้า
เสียชีวิตจากการถูกล้อรถพ่วงทับ ซึ่งห่างไปอีกกว่า 100 เมตร พบรถพ่วง 18 ล้อคู่กรณี จอดอยู่
โดยมี นายสุมฤต สุขสัมฤทธิ์ อายุ 50 ปีเป็น คนขับ ใต้ท้องรถด้านหลังพบรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ท้องรถเป็น
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ เอส สีดำ หมายเลขทะเบียน คฉจ 469 ชลบุรี ในสภาพถูกทับพังเสียหาย
จากการสอบสวนทราบว่า นายสุมฤต สุขสัมฤทธิ์ อายุ 50 ปี คนขับรถพ่วงเปิดเผยว่า
ตนเองขับรถออกมาจากลาตู้ เพื่อไปรับสินค้า ขณะขับรถมาจอที่บริเวณสามแยกเมืองทองเก่า
เพื่อจะเลี้ยวซ้ายไปท่าเรือแหลมฉบัง
ตนเองมองไม่เห็นรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิตได้เข้ามาจอดด้านข้างซ้ายของตัวรถพ่วงเพื่อที่จะขับข้ามแยกไปแต่ก็เป็นจังหวะเดียวที่ตนเองขับรถพ่วงออกตัวไปข้างหน้าเพื่อเลี้ยวซ้าย
ส่วนนางสมหมายกำลังจะตรงไป ทำให้นางสมหมายถูกรถพ่วงที่หักเลี้ยวรถขับทับร่างเสียชีวิต
ส่วนรถจักรยานยนต์ติดไปใต้ท้องรถ ลากไปไกลกว่า 100 เมตร โดยที่ตนเองยังไม่รู้ตัวว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จนกระทั่งมีพลเมืองดีขี่จักรยานยนต์ตามไปแจ้งเหตุจึงจอดรถลงมาดูดังกล่าว
ด้าน
น.ส.ราตรี คำแก้ว อายุ 37 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า รถพ่วงจอดอยู่ด้านหน้า
ส่วนจักรยานยนต์ขี่มาประกบข้าง ๆ รถพ่วงด้านซ้าย ก่อนที่รถพ่วงจะเลี้ยวไป ซึ่งถ้ารถใหญ่เลี้ยว ส่วนท้ายจะยังไม่เลี้ยวตาม จึงทำให้รถพ่วงเบียดรถจักรยานยนต์จนล้มลงแล้วล้อรถส่วนท้ายทับร่างผู้ขี่จักรยานยนต์จนเสียชีวิต
ส่วนตนเองกลัวไม่กล้าไปดูจึงร้องเรียกให้คนช่วย
ซึ่งคนขับรถพ่วงคงยังไม่รู้ขับต่อไปโดยลากเอารถจักรยานยนต์ติดไปด้วย จนมีพลเมืองดีขี่จักรยานยนต์ไปบอกให้คนขับรถพ่วงได้ทราบ
ซึ่งแยกนี้เกิดเหตุบ่อยมากแต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ก่อนบันทึกภาพในที่เกิดเหตุ และสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์
และเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องเข้าสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างประทีปศรีราชานำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง
ความคิดเห็น
/