ตำรวจชุดสืบสวนศรีราชาเก่ง ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ตามรวบคนร้ายบุกเดี่ยวชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ร้านทองศรีเจริญ 4 ในพื้นที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ไว้ได้ หลังจากมีพลเมืองดีเห็นภาพจากสื่อมวลชนท้องถิ่น จำคนร้ายได้ ให้เบาะแสจนสามารถตามจับกุมได้อย่างรวดเร็ว คนร้ายอ้างจะนำทองไปขายเพื่อรักษาแม่เป็นมะเร็งระยะที่ 4
จากรณีมีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองร้านทองศรีเจริญ
4 ริมถนนศรีราชา – หนองค้อ หมู่ 7
ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพ
คนร้ายทำทีเป็นลูกค้ามาขอเลือกสร้อยคอทองคำแล้วลองส่องกระจกหน้าร้าน เมื่อสบโอกาสมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ทำให้เจ้าของร้านทองปลดล็อกประตู
ก่อนคนร้ายจะฉวยโอกาสวิ่งออกนอกประตูขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดหน้าร้านหลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.00
น. วันที่ 20 กรกฎาคม 2565
ล่าสุดหลังวันนี้ ( 20 ก.ค.65) พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล
ผกก.สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ตั้งศิริเสถียร รองผู้กำกับฝ่ายสืบสวน
สภงศรีราชา พ.ต ต.ชนินทร์ ธรรมศานติบูรณ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีราชา
และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ศรีราชา ได้นำตัว นายอนุสรณ์ เสมอพงษ์
อายุ 33 ปี เป็นพนักงานในโรงงานต่อรถ ในพื้นที่ตำบลหนองขาม
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุชิงสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาทไปจากร้านทองศรีเจริญ 4 ริใถนนสายศรีราชา-หนองค้อ หมู่ 7 ตำบลสุรศักดิ์
อำเภอศรีราชาไป เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ
ซึ่งก่อเหตุไปได้เพียง 4 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรศรีราชา ก็สามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทันควัน
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า
เมื่อประมาณ 12.00 น.เป็นช่วงพักเที่ยง
นายอนุสรณ์ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากที่ทำงานระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรมาที่ร้านทอง ก่อนจะก่อเหตุชิงสร้อยคอทองคำไปแล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
กลับไปทำงานต่อ หลังจากนั้นสื่อมวลชนท้องถิ่นได้นำเสนอภาพข่าวออกไป
ทำให้พลเมืองดีเห็นภาพและจำรูปพรรณสัณฐานและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุได้
จึงติดต่อไปหาเจ้าของร้านให้เบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำกำลังไปติดตามจับกุมได้ที่ทำงาน
พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาทที่ก่อเหตุไป
โดยนายอนุสรณ์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง
และอ้างว่าที่ทำไปเพราะต้องการนำเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 ก่อนนำตัวมาทำแผนประกอบคำสารภาพที่ร้านทองที่เกิดเหตุ ซึ่งทางตำรวจก็จะได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นางสาวภัทริณี
วราวุฒิ อายุ 54 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ต้องขอขอบตุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ พลเมืองดีที่ให้เบาะแส
และสื่อมวลชนที่นำเสนอภาพข่าว ให้กับพลเมืองดีเข้ามาแจ้งเบาะแสในครั้งนี้
จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้ตนเองจะรู้สึกสงสาร
แต่เมื่อทำผิดไปแล้ว ก็ให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายในการลงโทษต่อไป
ความคิดเห็น
/