saostar

Banner โฆษณา

ศุลกากรแหลมฉบังเปิดตู้โชว์ตู้ตกค้า พบเนื้อสัตว์ ปุ๋ย และเม็ดพลาสติก เตรียมทำลาย

 

สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับโครงการท่าเรือสีขาวพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทยร่วมแก้ไขปัญหาตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ตกค้างภายในเขตท่าเรือแหลมฉบัง โดยทำการเปิดตูู้โชว์สื่อจำนวน 5 ตู้ พบซากสัตว์ 3 ตู้ เม็ดพลาสติก และปุ๋ย เตรียมนำไปทำลาย ซึ่งจะเร่งตรวจสอบตู้ตกค้างที่เหลือให้เสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

 ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีตู้สินค้าคอนเทนเนอร์คงค้างภายในเขตท่าเรือแหลมฉบังจำนวนกว่าพันตู้ ทั้งตู้สินค้าเก็บความเย็นตู้สินค้าทั่วไป และตู้สินค้าอันตราย ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้า ค่าเสียโอกาสจากการใช้พื้นที่จัดเก็บตู้สินค้า และเสียเวลาในการขนย้ายตู้สินค้าคงค้างเพื่อจัดเรียงตู้สินค้าใหม่ ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดในเขตท่าเรือ ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบกับหลายหน่วยงาน เช่น ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ตัวแทนเรือ ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และการท่าเรือแห่งประเทศไทย จึงขอให้สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว นั้น

 วันนี้ ( 24 กุมภาพันธ์ 2566) ที่บริเวณท่า C1 และ C 2 ภายในท่าเรือปหลมฉบัง จ.ชลบุรี  พ.ต.อ.สุรพันธ์ มั่นคงดี รองผู้บังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองยังคับการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย นายฐิติพงศ์ คำผุย ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร 1 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และคณะทำงานโครงการท่าเรือสีขาวภายในท่าเรือแหลมฉบัง ได้ทำการชี้แจงและตอบขอสงสัยในกรณีตู้สินค้าคงค้างภายในท่าเรือแหลมฉบัง ว่าตู้สินค้าที่คงค้างแบ่งเป็น 2 ประเภท คือตู้สินค้าของตกค้างที่อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจ หรือดำเนินการจำหน่าย เเละตู้สินค้าที่เป็นของกลาง  ซึ่งบางส่วนอยู่ระหว่างกระบวนการจำหน่ายเเละบางส่วนเป็นของกลางที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีอาญาไม่สามารถจำหน่ายได้

สำหรับตู้สินค้าคงค้างที่มีระยะเวลานาน สาเหตุเกิดจากตู้สินค้าบางส่วนอยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนบางส่วนเป็นของกลางเเละของตกค้างที่ต้องจำหน่ายโดยวิธีการทำลายเเต่ไม่มีงบประมาณในการทำลาย หรือต้องให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในการทำลายซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง เเละบางส่วนเป็นตู้สินค้าของกลางเเละของตกค้างที่เมื่อมีการสำรวจ เเละประเมินราคาเเล้วปรากฎว่าราคาขายทอดตลาดสูงกว่าราคาตลาด หรือเป็นสินค้าที่สภาพของสินค้าไม่เป็นที่ต้องการของท้องตลาด เช่น ตู้สินค้าเศษพลาสติกที่ได้ดำเนินการเปิดประมูลประมาณ 10 ครั้ง แล้วยังไม่สามารถขายได้จึงเกิดตู้สินค้าคงค้างที่จัดเก็บเป็นเวลานาน 

               สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ผลการดำเนินการเกี่ยวกับของกลางและของตกค้างในปี 2564 รวมทั้งสิ้น 204 ตู้ โดยได้ดำเนินการขายทอดตลาดจำนวน 142 ตู้ ส่งทำลาย จำนวน 30 ตู้ ส่งมอบจำนวน 9 ตู้ ขายปันส่วนจำนวน 2 ตู้ ขายคืนเจ้าของจำนวน 20 ตู้ และขอผ่อนผันการปฏิบัติพิธีการจำนวน 1 ตู้ ในปี 2565 รวมทั้งสิ้น 138 ตู้ โดยได้ดำเนินการขายทอดตลาดจำนวน 88 ตู้ส่งทำลายจำนวน 30 ตู้ ส่งมอบจำนวน 12 ตู้ ขายปันส่วนจำนวน 2 ตู้ ขายคืนเจ้าของจำนวน 1 ตู้ และขอผ่อนผันการปฏิบัติพิธีการจำนวน 5 ตู้ ซึ่งผลการดำเนินการเกี่ยวกับของกลางและของตกค้างในปี 2564 และ 2565 รวมทั้งสิ้น 342 ตู้

 ปัจจุบันตู้สินค้าที่เป็นของกลาง ของตกค้าง และของผ่านแดนที่ตกเป็นของแผ่นดิน ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีหรือรอจำหน่ายจำนวนทั้งสิ้น 331 ตู้ แบ่งเป็นตู้ของกลางจำนวน 130 ตู้ ของตกค้างจำนวน 160 ตู้ และของผ่านแดนที่ตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 41 ตู้ ในส่วนของตู้สินค้าเก็บความเย็นตกค้าง พบว่ามีตู้สินค้าที่รอดำเนินการสำรวจจำนวน 64 ตู้ ตู้สินค้าที่ผู้นำเข้ายื่นคำร้องขอผ่อนผันเพื่อปฏิบัติพิธีการศุลกากรจำนวน 84 ตู้และมีตู้สินค้าที่ดำเนินการสำรวจแล้วจำนวน 154 ตู้ 

                ในปี 2566 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้ดำเนินการเกี่ยวกับตู้สินค้าของกลาง ของตกค้าง และของผ่านแดนที่ตกเป็นของแผ่นดิน ดังนี้  

- วันที่ 11 มกราคม 2566 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังส่งมอบตู้สินค้าตกค้างประเภทเนื้อหมูสามชั้นที่เป็นสินค้าต้องกำกัด น้ำหนัก 28,594 กิโลกรัม ให้แก่ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี โดยได้มีการนำไปทำลาย ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เพชรบุรี  

- วันที่ 17 มกราคม 2566 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้ส่งมอบตู้ขาไก่แช่แข็งที่เป็นของตกค้างและเป็นของต้องกำกัด จำนวน 1,800 กล่อง   น้ำหนักรวม 21,600 กิโลกรัม ให้แก่ ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี โดยได้มีการนำไปทำลาย ณ ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี  

-     วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังส่งมอบตู้ขาไก่แช่แข็งที่เป็นของตกค้างและเป็นของต้องกำกัดจำนวน 6 ตู้  ให้แก่ ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี โดยจะนำไปทำลาย ณ ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี 

-    วันที่ 9 มีนาคม 2566 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังมีกำหนดการขายทอดตลาดของกลาง ของตกค้าง และของผ่านแดนที่ตกเป็นของแผ่นดิน 

-     ตู้สินค้าเก็บความเย็นตกค้าง ซึ่งได้เปิดสำรวจแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน 97 ตู้

ซึ่งวันนี้ได้มีการเปิดตู้สินค้าที่ตกค้างให้สื่อมวลชนและคณะทำงานดูจำนวน 5 ตู้ พบเป็นตู้สินค้าประเภทปุ๋ย 1 ตู้ เม็ดพลาสติก 1 ตู้ และเนื้อสุกรแช่แข็งที่มาจากประเทศบราซิล 2 ตู้ ประเทศรัสเซีย 1 ตู้ ซึ่งเป็รประเทศต้องห้ามนำเนื้อสัตว์เข้าประเทศเนื่องจากมีสารเร่งเนื้อแดงอยู่ในเนื้อสัตว์ จึงเตรียมนำไปทำลายและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป 

ทั้งนี้ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้กำชับให้ทุกส่วนงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการเร่งสำรวจของตกค้างส่งมอบของตกค้างให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งรัดการดำเนินการกับของกลาง การขายทอดตลาด รวมถึงการบูรณาการร่วมกับผู้ประกอบการและหน่วยงานอื่น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลพร้อมทั้งตั้งคณะทำงานร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อหารือแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รับฟังปัญหาและอุปสรรคเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ตามวิสัยทัศน์และพันธกิจของกรมศุลกากรต่อไป









ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ