saostar

Banner โฆษณา

จับแล้ว สามีใหม่ บีบคอฆ่าแม่ค้าลูกชิ้นดับ เหตุหึงหวงกลัวกลับไปคบสามีเก่า

            จับแล้ว ผู้ก่อเหตุฆ่าสาวขายลูกชิ้นหมกห้องพัก สาเหตุหึงหวง กลัวผู้เสียชีวิตกลับไปคืนดีกับสามีเก่า จึงซื้อเบียร์มาย้อมใจ ก่อนกลับมาที่หอพักแล้วพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงลงมือบีบคอจนเสียชีวิต แล้วล็อกห้องหลบหนีไป ญาติผู้เสียชีวิตขอให้ลงโทษสถานหนักและไม่อยากให้ประกันตัว

จากกรณี  นางสมจิต เมษา อายุ 42 ปี อาชีพขายลูกชิ้นอยู่หน้าโรงงานแห่งหนึ่ง ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ถูกพบว่าเสียชีวิตขึ้นอืดอยู่ในห้องพัก ที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.11 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยได้พบว่าประตูห้องได้ถูกล็อกจากภายนอกด้วยแม่กุญแจ  แล้วเพื่อนข้างห้องได้กลิ่นจึงรีบโทรแจ้งเจ้าของหอและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ซึ่งหลังจากนั้นพบว่า ผู้เสียชีวิตได้พักอาศัยอยู่กับสามีใหม่ในห้องพักกันสองคน หลังเกิดเหตุสามีใหม่ได้หายตัวไปนั้น

                ล่าสุดวันนี้( 6 ก.พ.2566) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี นำโดย พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ เนียมนัดฐ์ ผู้กำกับการ สภ.หนองขาม พร้อมด้วย พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผู้กำกับการ สืบสวน สภ.หนองขาม สามารถควบคุมตัว นายพงษ์พัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี สามีใหม่ นางสมจิต เมษา อายุ 42 ปี ผู้เสียชีวิตมาสอบสวน ที่ สภ.หนองขามแล้ว โดยนายพงษ์พัฒนืให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่านางสมจิตจริง เนื่องจากเกิดความหึงหวง กลัวว่า นางสมจิต จะกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า จึงเกิดมีปากเสียงกัน แล้วบันดาลโทสะใช้มือบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป แล้วมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด

                โดยนายพงษ์พัฒน์ ผู้ต้องหา ได้เปิดปากสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองคบกับนางสมจิตมานานประมาณ 10 เดือน ในช่วงหลังมานี้ นายพงษ์พัฒน์รู้สึกว่านางสมจิตเปลี่ยนไป มีการติดต่อกับแฟนเก่า จึงมีปากเสียงกัน จนกระทั่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประมาณบ่ายสองโมง จึงไปรับนางสมจิตที่ร้านขายลูกชิ้น ก่อนจะแวะซื้อเบียร์ มาดื่มกินที่ห้องพัก หลังจากนั้นก็เริ่มมีปากเสียงกันกับนางสมจิตในเรื่องดังกล่าว นายพงษ์พัฒน์จึงเกิดความโมโห แล้วใช้มือบีบคอจนนางสมจิตเสียชีวิต หลังจากนั้นจึงล็อกห้องพักก่อนหลบหนีไปอาศัยอยู่ที่อำเภอสัตหีบ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้สำเร็จ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายพงษ์พัฒน์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ซึ่งระหว่างทำแผนนั้นได้มียาติพี่น้องผู้เสียชีวิตเดินทางมาดูตัวนายพงษ์พัฒน์เป็นจำนวนมาก ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวกลับส่งตัวไปสาลทันที พร้อมแจ้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา” ต่อไป

                ด้าน นายอานุภาพ เหลืองอ่อน อายุ 22 ปี เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว ตนเองรู้สึกอุ่นใจ ตนเองเห็นผู้ต้องหาไม่มีสีหน้าสะทกสะท้านกับสิ่งที่ก่อเหตุมาเลย ใบหน้าเหมือนเป็นเรื่องปกติ เดินตัวลอย เหมือนเป้นเรื่องธรรมชาติ ตนเองอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ให้ประกันตัว ขอให้เห็นใจคนเสียชีวิตที่ไม่สามารถมาพูดได้ หลังจากนี้ก็คงต้องดิ้นกันต่อไป แม้จะขาดแม่ไป แม้แม่จะแยกออกไปมีครอบครัวใหม่มาสองปีแล้ว ซึ่งตนเองก็อยู่กับพ่อ แต่ไม่คิดว่าแม่จะต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้

                ด้าน นางสาวสุจิตรา เมษา อายุ 47 ปีพี่สาวนางสมจิต เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกจุกไปหมด ขนาดเห็นนายพงษ์พัฒน์เดินสวน ใจก็อยากจะเข้าไปต่อว่า แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อยากให้นายพงษ์พัฒน์ไปรับเวรรับกรรมที่ก่อขึ้นมา ขอให้เจอกับครอบครัวเขาบ้าง ใครไม่เจอกับตัวเองก็ไม่รู้ เราไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ชีวิตคน ชีวิตน้องเรา อยากให้นายพงษ์พัฒนืรับกรรม แบบไหนก็ได้  อยากให้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย ไม่อยากให้ประกันตัว ขาดนางสมจิตไปก็รู้สึกเสียใจ เคยกินอยู่ด้วยกัน แล้วมาจากไปแบบนี้ ใจหาย มันไวไป เพิ่มเห็นกันและจากกันไป ไม่คิดว่าน้องเราจะโดนแบบนี้ ตนเองก็คิดว่าเป็นประเด็นหึงหวง ประมาณว่าแฟนเก่าน้องสาวเราก็ยังรักกันอยู่ แต่แฟนใหม่น่าจะรู้ แต่ลึก ๆ น้องสาวไม่เคยระบายให้ฟัง แต่นายพงษ์พัฒน์ก็ไม่น่าจะทำแบบนี้ ถ้าไม่รักกันก็ควรแยกกันอยู่ มองดูท่าทางนายพงษ์พัฒน์เป็นคนใจเย็น ไม่มีพิษมีภัย ไม่น่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ ขนาดเห็นหน้ากันเมื่อสักครู่ก็ยังทำหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลย





 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ