ตำรวจสืบสวน สภ.บ่อวิน จัดการเด็ดปีกพ่อค้า รักษาผู้เสพ จับ "ขุนเดช" หัวหน้าเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่บ่อวินเขาคันทรงและปลวกแดง ได้ของกลางกว่า 400,000 เม็ด หลังจากขยายผลจับกุมตัว นายมานะ ที่ถูกจับพื้นที่ชลบุรี จนมาขยายผลจับตัวการใหญ่ได้ในครั้งนี้
วันนี้ 17 สิงหาคม 2567 ที่สถานีตำรวจภูธรบ่อวิน จังหวัดชลบุรี นายนพรัตน์ ศรีพรหม นายอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พันตำรวจเอกเอนก สระทองอยู่ ผู้กำกับการ สภ.บ่อวินร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นางสาวสุภาวรรณ หรือแอ้ ประนิธานะโต ซึ่งเป็นภรรยาของ นายมานะ มีบ่อทรัพย์ อายุ 51 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชลบุรี จับกุมตัวพร้อมของกลางกว่า 400,000 เมตรในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา สามารถยึดยาบ้าของกลางจำนวน 2,808 เม็ด จากนางสาวสุภาวรรณได้นั้น จึงขยายผลต่อไปจับกุมตัวนายสมเดช หรือขุนเดช ทับทิมทอง ที่เปิดร้านจำหน่ายหมูกระทะในพื้นที่ปลวกแดงพร้อมของกลางยาบ้า 200 เม็ด จึงทำการขยายผลไปที่บ้านของนายสมเดช หรือ ขุนเดช และ พบยาบ้าอีกจำนวน 411,479 เม็ด จึงทำตัวมาดำเนินคดีที่สภ.บ่อวิน ต่อไป
ตามนโยบายแก้ปัญหายาเสพติด
ในระยะเร่งด่วนของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย โดยตำรวจภูธรภาค 2
สำนักงาน ป.ป.ส.ภ.2 ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้สั่งการให้
ทุกอำเภอและทุก สภ.ในจังหวัดชลบุรี บูรณาในการการทำงาน ร่วมกัน
โดยก่อนที่จะเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อวิน
ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด จากการขยายผลตามโครงการชุมชนยั่งยืน
ตามนโยบายของรัฐบาล ทราบว่า นายมานะ มีบ่อทรัพย์ และ น.ส.สุภาวรรณ ประนิทานะโต
มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดให้กับบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ สภ.บ่อวิน
และพื้นที่ใกล้เคียง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้สืบสวนหาข่าวและติดตามเฝ้าระวัง นายมานะฯ
และน.ส.สุภาวรรณฯ มาโดยตลอด จนกระทั้งเมื่อวันที่ ๑๕ ส.ค.๒๕๖๗ เวลาประมาณ ๒๓.๓๐ น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ได้จับกุม นายมานะ มีบ่อทรัพย์ อายุ
๕๑ ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวนกระสอบ รวม ยาบ้าจำนวน ๔๐๐,๐๐๐
เม็ด พร้อมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีดำ หมายเลขทะเบียน ยข ๓๔๔๘
ชลบุรี ที่ใช้ขนยาบ้า จำนวน ๑ คัน ในความผิดฐาน จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑
(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
โดยการกระทำเพื่อการค้า จนก่อให้เกิดการแพร่กระจายในชุมขน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ่อวิน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.2 ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองชลบุรี ว่า จากการขยายผลเครือข่ายยาเสพติด นายมานะฯ(ผู้ต้องหา)ซึ่งเป็นบุคคลเฝ้าระวังเกี่ยวกับยาเสพติดของพื้นที่ สภ.บ่อวิน โดยมีพฤติการณ์ในการเสพและค้ายาเสพติด โดยพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 401/163 ม.5 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อวินพร้อมชุด ป.ป.ส.ภ.2 ได้ทำการตรวจสอบที่บ้านพักหลังดังกล่าวที่นายมานะฯ พักอาศัยอยู่ได้จากการตรวจสอบที่บ้านของนายมานะฯ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด โดยได้รับข้อมูลจากคนในบ้านของนายมานะฯ ทราบว่า นายมานะฯ ได้มีแฟนใหม่ ชื่อ น.ส.สุภาวรรณหรือแอ้ ประนิทานะโต พักอาศัยที่ห้องแถวสีเทา ห้องหมายเลข 3 เลขที่ 355 ม.1 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภ.2 ได้เข้าทำการตรวจสอบที่ห้องแถวสีเทา ที่ นายมานะฯ และ น.ส.สุภาวรรณฯ หรือแอ้ พักอาศัยอยู่ จากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 2,808 เม็ด พร้อมจับกุมตัว น.ส.สุภาวรรณ หรือแอ้ ประนิทานะโต แฟนนายมานะฯ ในความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย โดยการกระทำเพื่อการค้า จนก่อให้เกิดการแพร่กระจายในชุมขน”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลจากคำให้การของนายมานะฯ ให้การว่าได้รับการจ้างวานจาก นายขุนเดช หรือนายสมเดช ทับทิมทอง ให้เดินทาง ไปรับยาบ้าจำนวน 400,000 เม็ด ที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยให้ค่าจ้างเป็นเงิน จำนวน 35,000 บาท แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี จับกุมตัวเสียก่อน เมื่อทราบข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ได้ขยายผลเพิ่มเติมทราบว่า นายสมเดชหรือ ขุนเดชฯ ทับทิมทอง ได้เปิดร้านจำหน่ายหมูกระทะ ชื่อร้านยิ่ง หมูอร่อย สาขา 2 ม.1 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยใช้ยานพาหนะรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ซูซูกิ รุ่น สวิฟท์สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 7 กย 2816 กทม. ซึ่งห่างจากจุดที่จับกุมไม่ไกล จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบที่ร้านดังกล่าวเมื่อไปถึงพบ นายสมเดชหรือขุนเดชฯ กำลังขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าพนักงาน ปปส.ภ.2 จึงได้แสดงตัวและแสดงบัตรให้ดูพร้อมเรียกให้หยุดรถ นายสมเดชหรือขุนเดชฯ ได้ชูมือขึ้นแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินเข้าไปใกล้ นายสมเดช หรือขุนเดชฯ ได้เร่งเครื่องขับรถหลบหนี เป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร จนกระทั่งรถของนายสมเดชฯ เสียหลักลงข้างทาง สามารถจับกุมตัวนายสมเดชฯ ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 200 เม็ด พร้อมขยายผลไปทำการตรวจยึดยาบ้าได้ที่บ้านของนายสมเดชฯ เลขที่ 338 ม.2 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง พบยาบ้า อีกจำนวน 200 เม็ด และที่ห้องเช่าซอยคลองกรำ 5 ห้องเลขที่ 184/1 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง พบยาบ้าอีกจำนวน 411,479 รวมยาบ้าที่ได้จากการขยายผลนายสมเดชฯ จำนวน 411,879 เม็ด
จากการสอบถามนายสมเดชฯ ให้การรับว่ายาบ้าดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภ.2 ตรวจพบทั้งหมดเป็นของตนเองจริง โดยได้รับการติดต่อจากนายเต่า ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง สัญชาติเมียนมาร์ โดยรู้จักกับนายเต่าฯตั้งแต่ตอนที่ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรีด้วยกัน และเมื่อพ้นโทษมาแล้ว ได้ติดต่อกันผ่านแอพพลิเคชั่น ไลน์ โดยนายเต่าใช้ชื่อบัญชีว่า “IDonman” โดยนายสมเดชฯ ได้ทำการติดต่อกับนายเต่าเรื่อยมาจนกระทั่ง เมื่อประมาณเดือน พ.ค.67 นายเต่าฯ ได้ติดต่อกับนายสมเดชฯ ว่าจะนำยาบ้าให้กับนายสมเดชฯ จำนวนประมาณ 440,000 เม็ด นายสมเดชฯจึงได้ว่าจ้างนายมานะฯ ให้ไปรับยาเสพติดมาให้ เมื่อได้ยาบ้ามาแล้วจะนำมาเก็บไว้ที่ ห้องเช่าซอยคลองกรำ 5 ห้องเลขที่ 184/1 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง และบางส่วนจะนำไปพักไว้ที่บ้านเลขที่ 338 ม.2 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง พักไว้เพื่อรอนายเต่าฯติดต่อลูกค้าและนัดสถานที่ เมื่อนัดเต่าฯนัด ลูกค้าเรียบร้อย ก็จะส่งคิดอาร์โค๊ด ในนายสมเดชฯ แอดไลน์กับลูกค้าของนายเต่าฯ โดยจะนำยาบ้าไปวางที่จุดตามที่นัดหมายพร้อมส่งภาพและแชร์สถานที่ผ่านไลน์ ให้กับลูกค้าของนายเต่าฯ ทราบ โดยนายสมเดชฯจะได้ค่าจ้างจากการกระทำดังกล่าวเป็นเงินประมาณ 160,000 บาทและยาบ้ามาเพื่อจำหน่ายอีก จำนวน 10,000 เม็ด จากนั้นผู้ถูกจับได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าพนักงาน ปปส.เข้าไปตรวจยึดยาบ้าที่บ้านเลขที่ดังกล่าว ด้วยความสมัครใจ เมื่อเดินทางไปถึง จากการนำตรวจค้นของผู้ถูกจับ พบของกลางรายการที่ 2 (ตามตำแหน่งที่พบของกลาง) จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ และเดินทางต่อไปยังห้องเช่าดังกล่าว จากการนำชี้ของผู้ถูกจับ พบของกลางรายการที่ 3-8 (ตามตำแหน่งที่พบของกลาง) เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าพนักงาน ปปส. จึงได้ทำการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภ.2 ได้ทำการจับกุมตัวนายสมเดช หรือขุนเดช ทับทิมทอง พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 411,879 เม็ด ในความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน ,ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตหรือร่างกายผู้อื่น” และได้ร่วมกันตรวจยึดทรัพย์สินของนายสมเดช ทับทิมทอง ที่เชื่อว่าเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 จำนวน 16 รายการ เป็นเงิน 9,811,000 บาท รวมมูลค่ายาบ้าและทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึด มูลรวมประมาณ 30 ล้านบาท
ความคิดเห็น
/