ไทยออยล์แจง รวมตัวเรียกร้องค่าจ้าง ไม่ส่งผลให้โครงการ CFP ต้องเลื่อน พร้อมผลักดันให้ UJV ชำระค่าตอบแทนค้างจ่ายกับผู้รับเหมาช่วงตามสัญญาต่อไป
จากกรณีที่มีการรายงานข่าวปรากฏบนสื่อบางสื่อ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ว่า การรวมตัวชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ของ "สหพันธ์ผู้รับเหมาโรงกลั่น TOP, โครงการ CFP ศรีราชา" ("สหพันธ์") บริเวณหน้าโรงกลั่นไทยอออออล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี "ส่งผลให้โครงการ CFP ต้องเลื่อนเปิดดำเนินการออกไปอย่างไม่มีกำหนด" และได้มีการรายงานข่าวบนสื่อออออนไลน์ว่า บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชม) ("ไทยออยล์") ได้จัดจัางผู้รับเหมาหลัก คือ กิจการร่วมค้าระหว่าง Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd, Petrofac South East Asia Pte. Ltd. และ Saipem Singapore Pte. Ltd. (เรียกรวมกันว่า "UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem") ที่มีปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างมากในการดำเนินงานโครงการ CFP จึงเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาการจ่ายเงินค่าตอบแทนล่าช้าให้กับผู้รับเหมาช่วงนั้น
ไทยออยล์ ขอชี้แจงว่า โครงการ CFP เป็นโครงการขยายโรงกลั่นน้ำมันที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Complex Retinery) เพิ่มขีดความสามารถในด้านการกลั่นน้ำมันและสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ ซึ่งเป็นการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องจัดจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีบริษัทใดที่สามารถดำเนินการได้ ไทยออยล์ ได้เริ่มทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ CFP มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดยเริ่มการออกแบบกระบวนการผลิตและออกแบบทางวิศวกรรมเบื้องต้น ในปี พ.ศ. 2558-2559 เพื่อให้ได้ข้อมูลเพียงพอในการออกหนังสือเชิญประกวดราคาผู้รับจ้างเหมาทำของ ออกแบบบวิศวกรรม การจัดหา และการก่อสร้าง (EPC: Engineering, Procurement and Construction) โครงการ CFP และในปี พ.ศ. 2559 ไทยออยล์ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมการประกวดราคาตามกระบวนการจัดจ้างที่โปร่งใส สอดคล้องตามหลักบรรษัทภิบาล โดยมีหลักเกณฑ์ที่มีมาตรฐาน เช่น การวิเคราะห์งบการเงิน อัตราส่วนทางการเงิน ประสบการณ์ เป็นต้น ซึ่งปรากฏว่า บริษัท 1. Petrofac International (UAE) LLC Samsung Enaineerino Co. Ltd. และ 3. Saipem S.P.A ได้รับการคัดเลือกและได้ทำสัญญาจ้าง EPC ดังกล่าวกับกับไทยออยล์ ในปี พ.ศ. 2561 ในนามของ The Consortium ประกอบด้วย PSS Netherfands B.V, (Offshore Contractor) และ UJV -Samsung, Petrofac และ Saipem (Onshore Contractor) โดยบริษัทแม่ของ The Consortium (PSS Netherlands B.V, (Offshore Contractor) และ UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem (Onshore Contractor)) Ra 1. Petrofac Limited 2. Samsung Engineering Co., Ltd. และ 3. Saipem S.P.A. ("บริษัทแม่") ได้ออกหนังสือค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาของ The Consortium ทั้งหมด
ไทยออยล์ ได้ทราบข่าวมาจากผู้รับเหมาช่วงบางรายในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 ว่า UJV- Samsung, Petrofac และ Saipem ไม่จ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับบริษัทผู้รับเหมาช่วงบางรายตามกับกำหนด โดย UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem อ้างว่าขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน ทั้งๆ ที่ไทยออยล์ได้มีการจ่ายค่าตอบแทนให้กับ UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem อย่างครบถ้วนมาโดยตลอด และยังมีบริษัทแม่ที่สามารกให้ความช่วยเหลือทางการเงินเก่ UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem ได้
ไทยออยส์ ขอขี้แจงว่า การที่สหพันธ์รวมตัวชุนบุบบริเวณหน้าโรงกลั่นไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ซลบุรี เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของ ไทยออยล์ ในบริเวณดังกล่าว แต่มิได้ส่งผลให้โครงการ CFP ต้องเลื่อนเปิดดำเนินการออกไปอย่างไม่มีกำหนดดังที่สื่อบางรายได้มีการรายงานข่าวแต่อย่างใด
ไทยออยล์ ขอยืนยันว่า ไทยออยล์ ได้มีการจ่ายค่ายค่าตอบแทนให้กับ UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem ตานเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา EPC อย่างครบถ้วนถูกต้องมาอย่างต่อเนื่อง แต่ UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem ยังไม่จ่ายค่าตอบแทนค้างจ่ายให้กับบริษัทผู้รับเหมาช่วง อย่างไรก็ดี ไทยออยล์ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของสหพันธ์ จาการไม่ได้รับค่าตอบแทนค้างจ่ายจาก UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem ซึ่งไทยออยล์ ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการผลักคันให้ UJV-Samsung, Petrofac และ Saipem ชำระค่าตอบแทนค้างจ่ายกับผู้รับเหมาช่วงตามสัญญาระหว่าง UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem กับผู้รับเหมาช่วงแต่ละรายมาโดยตลอด เช่น การยินยอนให้ UJV - Samsung, Petrofac และ Sajpem เรียกเก็บเงินค่าตอบแทนจากไทยออยล์ตามความสำเร็จของงานที่เกิดขึ้นจริง แทนการจ่ายตามการส่งบอบงานเมื่อแล้วเสร็จในแต่ละส่วนตามแผนงานที่ระบุไว้ในสัญญา ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2563 ถึงตันปี พ.ศ. 2567 รวมถึงการจ่ายค่าจ้างให้เร็วที่สุดภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา เพื่อสนับสนุนสภาพคล่องทางการเงิน ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2565 ถึงกลางปี พ.ศ. 2567 บอกจากนี้ ไทยออยล์ได้หารือและเรียกร้องให้ UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem ยินยอมให้ไทยออยล์หักค่าตอบแทนตามสัญญา EPC ตามมูลค่าที่ UJV - Samsumsung, Petrofac และ Saipem มีสิทธิ์จะได้รับจากไทยออยล์ตามงวดงาน เพื่อชำระให้กับผู้รับหมาช่วงโดยตรง แต่ UJV - Samsung,Petrofac และ Saipem ยังไม่ให้ความยินยอม อย่างไรก็ตาม การให้ความช่วยเหลือต่อผู้รับเหมาช่วง ไทยออยล์ยังคงต้องคำนึงถึงว่า ไทยอออล์ มิได้เป็นคู่สัญญากับผู้รับเหมาช่วงโดยตรง จึงไม่สามารถก้าวล่วงดำเนินการใดๆ ในสัญญาระหว่างผู้รับเหมาช่วงและ UJV - Samsung, Petrofac IIaะ Saipem ได้ รวมถึง UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem ยังได้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งไม่ให้ไทยออยล์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสัญญาระหว่าง UJV - Samsung, Petrofac และ Saipem กับผู้รับเหมาช่วง
ไทยออยล์
ขอยืนยันว่า ไทยออยล์มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นตามหลักบรรษัทกิบาลและมุ่งหวังให้การดำเนินโครงการ
CPF แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
และไทยออยล์จะดำเนินการผลักดันให้ UJV - Samsung,
Petrofac และ Saipem ชำระค่าตอบแทนค้างจ่ายกับผู้รับเหมาช่วงตามสัญญาระหว่าง UJV -
Samsung, Petrofac และ Saipem กับผู้รับเหมาช่วงแต่ละรายต่อไป
ความคิดเห็น
/